เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 4. สุมนพุทธวงศ์
[32] พระพุทธเจ้าพระนามว่ามังคละ
เสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ พระราชอุทยานชื่อเวสสระ
พระสถูปของพระชินเจ้านั้นสูง 30 โยชน์
ณ พระราชอุทยานชื่อเวสสระนั้น” ฉะนี้แล
มังคลพุทธวงศ์ที่ 3 จบ

4. สุมนพุทธวงศ์
ว่าด้วยพระประวัติของพระสุมนพุทธเจ้า
[1] สมัยต่อจากพระพุทธเจ้าพระนามว่ามังคละ
ได้มีพระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้นำพระนามว่าสุมนะ
ไม่มีใครเสมอโดยธรรมทั้งปวง
ทรงสูงสุดแห่งสัตว์ทั้งปวง
[2] ครั้งนั้น พระศาสดาทรงลั่นอมตเภรี1ในเมขลบุรี
คำสอนของพระชินเจ้ามีองค์ 9 ประกอบด้วยธรรมฝ่ายขาว
[3] พระศาสดาพระองค์นั้น ทรงชำนะกิเลสแล้ว
ทรงบรรลุสัมโพธิญาณอันประเสริฐสุด
ทรงสร้างนครคือพระสัทธรรมซึ่งเป็นเมืองประเสริฐที่สุด
[4] พระองค์ทรงสร้างถนนใหญ่คือสติปัฏฐาน อันล้ำเลิศ
ไม่มีอะไรคั่น ไม่คด เป็นถนนตรง ไพบูลย์ กว้างขวาง
[5] ทรงแผ่สามัญผล 4 ปฏิสัมภิทา 4 อภิญญา 6
และสมาบัติ 8 ไว้บนถนน2นั้น
[6] ชนเหล่าใดเป็นผู้ไม่ประมาท ไม่มีกิเลสเพียงดังตะปูตรึงใจ3
ประกอบด้วยหิริและความเพียร
ชนเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมถือเอาคุณอันประเสริฐนี้ได้อย่างสบาย

เชิงอรรถ :
1 ลั่นอมตเภรี ได้แก่ บรรลุนิพพาน (ขุ.พุทฺธ.อ. 2/227)
2 ถนน หมายถึงมหาสติปัฏฐาน 4 (ขุ.พุทธ.อ. 4/228)
3 กิเลสเพียงดังตะปูตรึงใจ ได้แก่ เคลือบแคลงสงสัยในพระพุทธ ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ในสิกขาและ
โกรธ (องฺ.ทสก. (แปล) 24/14/22)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :607 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 4. สุมนพุทธวงศ์
[7] พระศาสดาทรงช่วยเหลือมหาชนด้วยความเพียรนั้นอย่างนี้
ทรงช่วยเทวดาและมนุษย์ประมาณ 100,000 โกฏิ
ให้บรรลุธรรมครั้งที่ 1
[8] พระมหาวีระตรัสสอนหมู่เดียรถีย์ในกาลใด
ในกาลนั้นทรงช่วยเหล่าสัตว์ ประมาณ 100,000 โกฏิ
ให้บรรลุธรรมในกาลแสดงธรรมครั้งที่ 2
[9] ในกาลเมื่อเทวดาและมนุษย์ผู้พร้อมเพรียงกัน
ร่วมใจกันมาทูลถามนิโรธปัญหาและความสงสัยทางใจ
[10] ในกาลทรงแสดงธรรมเป็นเครื่องแสดงนิโรธ
แม้ครั้งนั้นเหล่าสัตว์ประมาณ 90,000 โกฏิ
ได้บรรลุธรรมครั้งที่ 3
[11] พระพุทธเจ้าพระนามว่าสุมนะ
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ มีการประชุมแห่งพระขีณาสพ
ผู้ปราศจากมลทิน มีจิตสงบระงับ ผู้คงที่ 3 ครั้ง
[12] เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงจำพรรษาแล้ว
เมื่อสงฆ์ประกาศปวารณา พระตถาคตทรงปวารณา
พร้อมด้วยภิกษุประมาณ 100,000 โกฏิ
[13] จากนั้น ในการประชุมกันที่สุวรรณบรรพตอันสุกปลั่ง
พระขีณาสพประมาณ 90,000 โกฏิ มาประชุมกัน เป็นครั้งที่ 2
[14] ในกาลเมื่อท้าวสักกเทวราชเสด็จเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
พระขีณาสพจำนวน 80,000 โกฏิ
มาประชุมกัน เป็นครั้งที่ 3
[15] สมัยนั้น เราเป็นพญานาค ผู้มีฤทธิ์มาก
มีชื่อว่าอตุละ เป็นผู้สร้างกุศลให้เจริญขึ้น
[16] ครั้งนั้น เราพร้อมด้วยหมู่ญาติออกจากนาคพิภพ
บำรุงพระชินเจ้าพร้อมทั้งพระสงฆ์ด้วยดนตรีทิพย์ของพวกนาค

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :608 }