เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [4. ขัตติยกัญญาวรรค] 3. อุปปลทายิกาเถริยาปทาน
[64] ด้วยกรรมที่หม่อมฉันได้ทำไว้ดีแล้วนั้น
และด้วยเจตนาที่ตั้งไว้มั่น
หม่อมฉันละกายมนุษย์แล้วจึงได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
[65] ได้เป็นพระมเหสีของท้าวเทวราช 1,000 ชาติ
ได้เป็นพระมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ 1,000 ชาติ
[66] และได้เป็นพระมเหสีของพระเจ้าประเทศราช
อันไพบูลย์นับชาติไม่ถ้วน
แต่นั้น ผลอื่นอีกมากมายหลายชนิด
เป็นผลกรรมแห่งทานนั้น
[67] หม่อมฉันมีผิวพรรณเหมือนดอกอุบล
เป็นสตรีมีรูปงาม น่าดูน่าชม
มีองค์สมบัติทั้งปวงสมบูรณ์1
เป็นอภิชาตบุตร ทรงไว้ซึ่งความเปล่งปลั่ง
[68] เมื่อถึงภพสุดท้าย หม่อมฉันเกิดในศากยตระกูล
เป็นหัวหน้าของนารี 1,000 นาง
ของพระโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ
[69] หม่อมฉันเบื่อหน่ายการครองเรือน
จึงออกบวชเป็นบรรพชิต เพียง 7 ราตรี ก็ได้บรรลุสัจจะ 4
[70] หม่อมฉันไม่สามารถจะประมาณจีวร บิณฑบาต
เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารได้
นี้เป็นผลแห่งการถวายบิณฑบาต
[71] ข้าแต่พระมหาวีระ ผู้เป็นพระมุนี
ขอพระองค์พึงหวนระลึกถึงกุศลกรรมเก่าของหม่อมฉันเถิด
หม่อมฉันได้สละวัตถุเป็นอันมาก ก็เพื่อประโยชน์แก่พระองค์

เชิงอรรถ :
1 องค์สมบัติทั้งปวง ในที่นี้หมายถึงมีอวัยวะทุกส่วนสมบูรณ์ได้สัดส่วน (ขุ.อป.อ. 1/173/262)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :528 }