เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [3. กุณฑลเกสีวรรค] 8. ยโสธราเถริยาปทาน
[355] พระองค์ทรงปรึกษาหม่อมฉันว่า
‘เราจะให้ทานแก่พวกยาจก’
เมื่อพระองค์ให้ทานที่ประเสริฐอยู่ หม่อมฉันก็ไม่เคยเสียใจ
[356] ข้าแต่พระมหาวีระ หม่อมฉันยอมรับทุกข์ทรมาน
มากมายหลายอย่างจนนับไม่ถ้วน ในสงสารเป็นอเนก
ก็เพื่อประโยชน์แก่พระองค์
[357] ข้าแต่พระมหามุนี หม่อมฉันได้รับสุขก็อนุโมทนา
และคราวที่ได้รับทุกข์ก็ไม่เสียใจ เป็นผู้ยินดีแล้วทุกอย่าง
เพื่อประโยชน์แก่พระองค์
[358] ข้าแต่พระมหามุนี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญธรรม
โดยมรรคที่สมควร เสวยสุขและทุกข์แล้ว
ได้บรรลุพระโพธิญาณ
[359] การที่พระองค์และหม่อมฉันพบพระสัมพุทธเจ้า
ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลกพระนามว่าพรหมเทพ
และพระนามว่าโคดม แล้วพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้ทรงเป็นที่พึ่งสัตว์โลกเหล่าอื่นอีกก็มาก
[360] ข้าแต่พระมหามุนี อธิการของหม่อมฉันมีมาก
เพื่อประโยชน์แก่พระองค์ หม่อมฉันเมื่อแสวงหาพุทธธรรมอยู่
ก็ได้เป็นบาทบริจาริกาของพระองค์
[361] ใน 4 อสงไขยและอีก 100,000 กัป
พระมหาวีระพระนามว่าทีปังกร
ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว
[362] ประชาชนในปัจจันตประเทศ
ต่างมีใจยินดีทูลนิมนต์พระตถาคตแล้ว
ช่วยกันแผ้วถางทางซึ่งเป็นที่เสด็จพุทธดำเนิน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :501 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [3. กุณฑลเกสีวรรค] 8. ยโสธราเถริยาปทาน
[363] ครั้งนั้น พระองค์เกิดเป็นพราหมณ์นามว่าสุเมธะ
กำลังตกแต่งหนทางเพื่อพระสุคต
ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวงกำลังเสด็จมา
[364] ครั้งนั้น หม่อมฉันได้เกิดในตระกูลพราหมณ์
เป็นหญิงสาวมีนามว่าสุมิตตา เข้าไปสู่สมาคม
[365] ถือดอกอุบลไป 8 กำเพื่อบูชาพระศาสดา
ได้เห็นพระองค์ผู้เป็นฤาษีผู้ประเสริฐ ในท่ามกลางหมู่ชน
[366] ครั้งนั้น หม่อมฉันได้เห็นพระองค์ผู้น่าพอใจ
ผู้มีความเอ็นดูประทับอยู่นาน ดำเนินผ่านไป
จึงได้สำคัญว่าชีวิตของเรามีผล
[367] ครั้งนั้น หม่อมฉันเห็นความพยายามที่มีผล
ของพระองค์ผู้เป็นพระฤาษี ด้วยบุพกรรม
แม้จิตของหม่อมฉันก็เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[368] หม่อมฉันทำจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง
ในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระฤๅษี มีพระทัยเบิกบาน
ข้าแต่พระฤาษี หม่อมฉันมิได้เห็นสิ่งอื่นที่ควรถวาย
จึงถวายดอกอุบลแด่พระองค์ พร้อมกับกล่าวว่า
[369] ‘ข้าแต่พระฤๅษี ดอกอุบล 5 กำ จงเป็นของท่าน
ดอกอุบล 3 กำ จงเป็นของหม่อมฉัน
ข้าแต่พระฤๅษี ดอกบัว 3 กำของหม่อมฉัน
กับดอกบัว 5 กำของท่านนั้น จงมีผลเสมอกัน
เพื่อประโยชน์แก่พระโพธิญาณของท่าน’
ภาณวารที่ 4 จบ

[370] สุเมธมหาฤาษีรับดอกอุบลแล้วบูชาพระพุทธเจ้าพระนามว่าทีปังกร
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ มีบริวารยศมากมาย
เสด็จดำเนินมาท่ามกลางชุมชน เพื่อประโยชน์แก่พระโพธิญาณ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :502 }