เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [3. กุณฑลเกสีวรรค] 7. ภัททกาปิลานีเถริยาปทาน
[289] ใส่ไปแล้วตามประทีปตั้งไว้ 7 แถว
เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า ผู้เป็นที่พึ่งของสัตว์โลก ด้วยจิตที่เลื่อมใส
[290] แม้ครั้งนั้น หม่อมฉันมีส่วนในบุญนั้นโดยพิเศษ
สามีของหม่อมฉันไปเกิดในแคว้นกาสี
มีนามปรากฏว่าสุมิตตะ
[291] หม่อมฉันเป็นภรรยาของเขา
มีความสุขอันเขาประดับตกแต่งแล้ว เป็นที่รัก
ครั้งนั้น สามีของหม่อมฉันได้ถวายผ้าโพกศีรษะเนื้อดี
แก่พระปัจเจกมุนี
[292] แม้หม่อมฉันก็มีส่วนแห่งทานนั้น อนุโมทนาทานที่ประเสริฐ
สามีได้ไปเกิดในกำเนิดแห่งชาวโกลิยะในแคว้นกาสีอีก
[293] ครั้งนั้น สามีของหม่อมฉันพร้อมด้วยบุตร
ของชาวโกลิยะ 500 คน
ได้บำรุงพระปัจเจกพุทธเจ้า 500 องค์
[294] นิมนต์พระปัจเจกพุทธเจ้าเหล่านั้น
ให้อยู่จำพรรษาตลอดไตรมาสแล้วได้ถวายไตรจีวร
ครั้งนั้น หม่อมฉันเป็นภรรยาของเขา
เป็นผู้ปฏิบัติกุศลกรรมบถ
[295] สามีจุติจากอัตภาพนั้นแล้ว
ได้เป็นพระราชาพระนามว่านันทะ มียศมาก
แม้หม่อมฉันก็ได้เป็นพระมเหสีของท้าวเธอ
เป็นผู้มีสมบัติให้สำเร็จสิ่งที่ต้องประสงค์ทุกประการ
[296] พระเจ้านันทะนั้นจุติจากอัตภาพนั้นแล้ว
ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินนามว่าพรหมทัต
ครั้งนั้น พระปัจเจกมุนี 500 องค์ถ้วน
ผู้เป็นพระโอรสของนางปทุมวดี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :493 }