เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [3. กุณฑลเกสีวรรค] 4. สกุลาเถริยาปทาน
4. สกุลาเถริยาปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระสกุลาเถรี
(พระสกุลาเถรี เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[131] พระชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ
ผู้ถึงความสำเร็จแห่งธรรมทั้งปวง ทรงเป็นผู้นำ
เสด็จอุบัติขึ้นแล้วในกัปที่ 100,000 นับจากกัปนี้ไป
[132] พระองค์เป็นผู้ประเสริฐกว่าเจ้าลัทธิทั้งหลาย
เป็นบุรุษอาชาไนย
ทรงปฏิบัติเพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุข
เพื่อประโยชน์แก่สรรพสัตว์ในโลกพร้อมทั้งเทวโลก
[133] พระชินเจ้า ผู้มีพระยศอันเลิศ มีพระสิริ
มีพระเกียรติคุณฟุ้งขจรไป อันชาวโลกทั้งปวงบูชาแล้ว
มีพระคุณปรากฏไปทั่วทิศ
[134] พระองค์ทรงข้ามพ้นความสงสัยแล้ว
ทรงล่วงความเคลือบแคลงแล้ว
มีความดำริในพระหทัยบริบูรณ์เต็มที่
ทรงบรรลุสัมโพธิญาณที่ประเสริฐสุด
[135] พระองค์ทรงเป็นผู้สูงสุดแห่งนระ
ทรงทำมรรคที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น
ตรัสบอกมรรคที่ยังไม่มีใครบอก
ทรงทำธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดพร้อม
[136] พระองค์ทรงรู้มรรค รู้แจ้งมรรค
ตรัสบอกมรรค เป็นผู้องอาจกว่านรชน
เป็นพระศาสดาผู้ฉลาดในมรรค
ผู้ประเสริฐสูงสุด ในบรรดาสารถีทั้งหลาย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :473 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [3. กุณฑลเกสีวรรค] 4. สกุลาเถริยาปทาน
[137] ผู้ประกอบด้วยพระมหากรุณา ผู้เป็นที่พึ่ง ทรงเป็นผู้นำ
ทรงแสดงธรรมถอนเหล่าสัตว์ผู้จมอยู่ในเปือกตมคือกาม
[138] ครั้งนั้น หม่อมฉันเกิดเป็นนางกษัตริย์ในกรุงหงสวดี
มีนามว่านันทนา
มีรูปสวย รวยทรัพย์ น่าเอ็นดู มีสิริ
[139] เป็นธิดาของมหาราชพระนามว่าอานันทะ งดงามอย่างยิ่ง
เป็นภคินีต่างมารดาของพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ
[140] ห้อมล้อมด้วยราชกัญญาทั้งหลาย
ประดับด้วยเครื่องอาภรณ์ทุกชนิด
เข้าไปเฝ้าพระมหาวีระ ได้ฟังพระธรรมเทศนา
[141] ครั้งนั้น พระมหาวีรเจ้าพระองค์นั้นผู้ทรงรู้แจ้งโลก
ทรงตั้งภิกษุณีรูปหนึ่ง ผู้มีทิพยจักษุไว้ในเอตทัคคะ
ในท่ามกลางบริษัท 4
[142] หม่อมฉันได้ฟังพุทธดำรัสนั้นแล้ว มีความร่าเริง
ถวายทานแด่พระศาสดาและบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
ได้ปรารถนาทิพยจักษุ
[143] จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสกับหม่อมฉันว่า
‘นันทนา เธอจักได้ตำแหน่งตามที่เธอปรารถนา
ตำแหน่งที่เธอปรารถนานี้เป็นผลแห่งประทีปธรรมและทาน
[144] ในกัปที่ 100,000 นับจากกัปนี้ไป
พระศาสดาพระนามว่าโคดม ตามพระโคตร
ทรงสมภพในราชสกุลโอกกากราช จักอุบัติขึ้นในโลก
[145] สตรีผู้นี้จักมีนามว่าสกุลา
เป็นธรรมทายาท เป็นโอรสที่ธรรมเนรมิต
จักเป็นสาวิกาของพระศาสดาพระองค์นั้น’

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :474 }