เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [2. เอกูโปสถิกวรรค] 9. อุปปลวัณณาเถริยาปทาน
เป็นธิดาของพราหมณ์ชื่อติริฏิวัจฉะ
มีชื่อว่าอุมมาทันตี มีสิริโฉมงดงามเป็นที่จูงใจให้หลงใหล
[439] จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว ได้ไปเกิดในตระกูลหนึ่ง
ที่ไม่ค่อยมีความอุดมสมบูรณ์มากนักในชนบท
รักษาข้าวสาลีในครั้งนั้น
[440] หม่อมฉันเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง
ได้ถวายข้าวตอก 500 ดอก ห่อด้วยดอกปทุม
ปรารถนามีบุตร 500 คน
[441] เมื่อหม่อมฉันปรารถนาบุตรจำนวนเท่านั้นแล้ว
ได้ถวายน้ำผึ้งแด่พระสยัมภู
จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว
ได้เกิดภายในดอกบัวในป่า
[442] ได้เป็นพระมเหสีของพระเจ้ากาสี เป็นผู้ที่ประชาชนสักการบูชา
ได้ให้กำเนิดพระราชบุตรครบ 500 องค์
[443] เมื่อพระราชบุตรเหล่านั้นทรงเจริญวัยแล้ว
ทรงเล่นน้ำ ได้เห็นดอกบัวที่ร่วงโรยไป
ก็ได้สำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
[444] หม่อมฉันนั้น เมื่อต้องพลัดพรากจากบุตรผู้ประเสริฐเหล่านั้น
ก็มีความเศร้าโศก จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว
ได้ไปเกิดในหมู่บ้านข้างภูเขาอิสิคิลิ
[445] เมื่อหม่อมฉันทราบว่า บุตรเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
ได้ถือข้าวยาคูไปเพื่อบุตรและเพื่อตนเอง
ได้เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า 8 องค์
[446] เข้าไปสู่บ้านเพื่อภิกษาหาร ก็ระลึกถึงบุตรขึ้นมา
ธารน้ำนมของหม่อมฉันก็หลั่งไหลออกเพราะความรักบุตร

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :446 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [2. เอกูโปสถิกวรรค] 9. อุปปลวัณณาเถริยาปทาน
[447] หม่อมฉันมีความเลื่อมใส ได้ถวายข้าวยาคูด้วยมือของตน
แก่พระปัจเจกพุทธเจ้าเหล่านั้น
หม่อมฉันจุติจากอัตภาพนั้นแล้ว
ไปเกิดในสวนนันทวันบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
[448] ข้าแต่พระมหาวีระ
หม่อมฉันเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพน้อยภพใหญ่
ได้เสวยสุขและทุกข์และได้สละชีวิตเพื่อประโยชน์แก่พระองค์
[449] หม่อมฉันมีทุกข์ก็มาก มีสมบัติก็หลายชนิด
ดังที่กราบทูลมานี้ เมื่อถึงภพสุดท้าย หม่อมฉันเกิดในกรุงสาวัตถี
[450] ในตระกูลเศรษฐีมีทรัพย์มาก
ประกอบด้วยสุขสมบัติ มีความรุ่งเรืองด้วยรัตนะต่าง ๆ
ให้สำเร็จสิ่งที่ปรารถนาทุกอย่าง
[451] เป็นผู้ที่ประชุมชนสักการบูชา
นับถือและยำเกรง ประกอบด้วยสิริรูป
อันชนในตระกูลทั้งหลายสักการะอย่างยิ่ง
[452] หม่อมฉันเป็นหญิงที่น่าปรารถนายิ่งนัก
ด้วยสิริคือรูปสมบัติและโภคสมบัติ
บุตรเศรษฐีทั้งหลายและบริวารของตนจำนวนมากต่างปรารถนา
[453] หม่อมฉันละเรือน ออกบวชเป็นบรรพชิต
ยังไม่ถึงกึ่งเดือนก็ได้บรรลุสัจจะ 4
[454] หม่อมฉันเนรมิตรถเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสได้ด้วยฤทธิ์
ขอกราบพระยุคลบาทของพระพุทธเจ้า
ผู้ทรงเป็นที่พึ่งของโลกผู้มีพระสิริ
[455] (พญามารมากล่าวกับหม่อมฉันว่า)
‘ท่านเข้ามายังต้นไม้ชั้นเลิศที่มีดอกแย้มบานดีแล้ว
ยืนอยู่เพียงผู้เดียวที่โคนต้นสาละ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :447 }