เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [2. เอกูโปสถิกวรรค] 7. มหาปชาปตีโคตมีเถริยาปทาน
[244] ต่อจากนั้น พระนางก็ละอุบาสิกาเหล่านั้นแล้ว
เข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน
และจตุตถฌาน อันยอดเยี่ยม
[245] แล้วเข้าอากาสานัญจายตนฌาน
วิญญาณัญจายตนฌาน อากิญจัญญายตนฌาน
และเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน ตามลำดับ
[246] แล้วพระโคตมีเถรี ก็เข้าฌานทั้งหลายโดยปฏิโลม
จนถึงปฐมฌาน เข้าฌานทั้ง 3 จนถึงจตุตถฌาน
[247] ครั้นออกจากจตุตถฌานแล้วไม่มีอาสวะนิพพาน
เหมือนดวงประทีปหมดเชื้อดับไป
ได้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ สายฟ้าก็ผ่าลงมาจากนภากาศ
[248] กลองทิพย์ก็บันลือลั่นขึ้นเอง เทพทั้งหลายพากันคร่ำครวญ
และฝนดอกไม้ก็โปรยปรายจากอากาศลงสู่พื้นดิน
[249] แม้ภูเขาเมรุราชก็กัมปนาทหวั่นไหว
เหมือนคนเต้นรำท่ามกลางโรงเต้นรำ
ทะเลก็ปั่นป่วนครวญครางเพราะความเศร้าโศก
[250] เทพ นาค อสูร และพรหมต่างก็พากันสลดใจ
กล่าวขึ้นในขณะนั้นเองว่า “สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
เหมือนอย่างพระมหาปชาบดีเถรีนี้
ถึงความย่อยยับไปแล้ว”
[251] และพระเถรีทั้งหลายผู้ทำตามคำสั่งสอนของพระศาสดา
ซึ่งห้อมล้อมพระมหาปชาบดีเถรีนี้ก็ไม่ยึดมั่นถือมั่น
พากันนิพพานไปแล้ว
เหมือนดวงประทีปหมดเชื้อดับไป

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :420 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [2. เอกูโปสถิกวรรค] 7. มหาปชาปตีโคตมีเถริยาปทาน
[252] โอ ! ความประจวบกันมีความพลัดพรากเป็นที่สุด
โอ ! สิ่งที่ปัจจัยปรุงแต่งล้วนไม่เที่ยง
โอ ! ชีวิตมีความพินาศเป็นที่สุด
การคร่ำครวญได้มีแล้ว ด้วยประการฉะนี้
[253] ลำดับนั้น เทวดาและพรหมต่างก็เข้าไปเฝ้าพระฤาษีผู้ประเสริฐ
จึงทำความประพฤติตามโลกธรรมสมควรแก่กาล
[254] ครั้งนั้น พระศาสดาตรัสเรียกพระอานนท์
ผู้เป็นพหูสูต มีปัญญาดุจห้วงน้ำมาสั่งว่า
“อานนท์ เธอจงไปประกาศให้ภิกษุทั้งหลายทราบ
ถึงการปรินิพพานของพระมารดา”
[255] ในกาลนั้น ท่านพระอานนท์หมดความแช่มชื่น
มีน้ำตานองนัยนา ประกาศด้วยเสียงสั่นเครือว่า
“ขอภิกษุทั้งหลายจงมาประชุมกัน
[256] คือภิกษุทั้งหลายที่เป็นโอรสของพระสุคตทั้งที่อยู่ในทิศตะวันออก
ทิศใต้ ทิศตะวันตก ทิศเหนือ
ภิกษุณีนั้นเป็นมารดาของเรา
[257] ผู้ประคบประหงมสรีระสุดท้ายของพระมุนีให้เจริญ
ด้วยน้ำนมของตน ภิกษุณีนั้น คือพระโคตมีเถรี
ดับสนิทแล้วเหมือนดวงดาวดับแสงในเวลาดวงอาทิตย์ขึ้น
[258] พระนางทรงประกาศให้รู้ว่า ‘เป็นพุทธมารดา’
แล้วนิพพาน ซึ่งเป็นที่ที่คนแม้มีดวงตา 5 ดวงก็มองไม่เห็น
แต่พระผู้มีพระภาคผู้เป็นผู้นำทรงเห็นได้
[259] ขอพระโอรสของพระสุคต ผู้มีศรัทธาในพระสุคต
หรือเป็นศิษย์ของพระมหามุนี
จงทำสักการะพุทธมารดาเถิด”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :421 }