เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [2. เอกูโปสถิกวรรค] 7. มหาปชาปตีโคตมีเถริยาปทาน
[130] “ข้าแต่พระสุคต หม่อมฉันเคยเป็นมารดาเลี้ยงของพระองค์
ข้าแต่พระธีรเจ้า ส่วนพระองค์เป็นบิดาของหม่อมฉัน
ข้าแต่พระโลกนาถ พระองค์ทรงเป็นผู้ประทานความสุข
ที่เกิดจากพระสัทธรรม
ข้าแต่พระโคดม หม่อมฉันเป็นผู้ที่พระองค์ทรงให้เกิดแล้ว
[131] ข้าแต่พระสุคต พระรูปกายของพระองค์นี้
อันหม่อมฉันเคยฟูมฟักให้เจริญเติบใหญ่แล้ว
ส่วนพระธรรมกายที่น่าเพลิดเพลินของหม่อมฉัน
อันพระองค์ทรงฟูมฟักให้เจริญแล้ว
[132] พระองค์หม่อมฉันให้ดื่มน้ำนม
อันระงับความหิวได้เพียงชั่วครู่
ส่วนหม่อมฉันพระองค์ทรงให้ดื่มแม้น้ำนม
คือพระธรรมซึ่งสงบระงับได้แท้จริง
[133] ข้าแต่พระมหามุนี พระองค์ชื่อว่ามิได้เป็นหนี้หม่อมฉัน
ในเพราะการเลี้ยงดูด้วยความผูกพัน
หม่อมฉันได้ฟังมาว่า สตรีทั้งหลายผู้ปรารถนาบุตรขออยู่
ก็ย่อมได้บุตรเช่นนั้น
[134] มารดาใดของจอมนรชน มีพระเจ้ามันธาตุเป็นต้น
มารดานั้นชื่อว่ายังบุตรให้จมอยู่ในห้วงมหรรณพคือภพ
ข้าแต่พระปิโยรส ส่วนหม่อมฉันผู้จมอยู่แล้ว
พระองค์ทรงช่วยให้ข้ามพ้นจากสาครคือภพได้
[135] พระนามว่า พระพันปีหลวง
สตรีทั้งหลายได้มาโดยง่าย
(แต่)พระนามว่า พุทธมารดา นี้
สตรีทั้งหลายได้มาโดยยากอย่างยิ่ง
[136] ข้าแต่พระมหาวีระ ก็พระนามว่า
พุทธมารดานั้นอันหม่อมฉันได้แล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :404 }