พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [56. ยสวรรค] 11. รัฏฐปาลเถราปทาน
ข้าพเจ้าให้ตีราคา ทั้งหมดนั้นแล้ว
ให้สร้างสังฆาราม(ด้วยราคาช้างนั้น)
[181] ข้าพเจ้าให้สร้างปราสาท 54,000 หลัง
บำเพ็ญทานดุจห้วงน้ำใหญ่
มอบถวายพระพุทธเจ้า ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
[182] พระสยัมภูพุทธเจ้า ผู้มีความเพียรมาก
เป็นบุคคลผู้เลิศ ได้ทรงอนุโมทนาแล้ว
เมื่อจะให้ชนทั้งหมดรื่นเริง ทรงแสดงอมตบทแล้ว
[183] พระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ
ประทับนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์แล้ว
ทรงพยากรณ์กรรมนั้นแก่ข้าพเจ้า
ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า
[184] บุคคลผู้นี้ให้สร้างปราสาท 54,000 หลัง
เราจักกล่าวผลวิบากของเขา
พวกเธอจงฟังเรากล่าวเถิด
[185] เรือนยอด 18,000 หลัง จักเกิดมี
และเรือนยอดเหล่านั้นสำเร็จด้วยทองคำล้วน
บังเกิดขึ้นในวิมานชั้นสูงสุด
[186] ผู้นี้จักเกิดเป็นจอมเทพ
ครองเทวสมบัติตลอด 50 ชาติ
จักเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 58 ชาติ
[187] ในกัปที่ 100,000 (นับจากกัปนี้ไป)
พระศาสดาพระนามว่าโคดม ตามพระโคตร
ทรงสมภพในราชสกุลโอกกากราช จักอุบัติขึ้นในโลก
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [56. ยสวรรค] 11. รัฏฐปาลเถราปทาน
[188] เขาถูกกุศลมูลตักเตือนแล้ว จักจุติจากเทวโลก
บังเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง มีโภคะเป็นอันมาก
[189] เขาจักมีชื่อว่ารัฏฐบาล
ภายหลังถูกกุศลมูลตักเตือนแล้ว
จักออกบวชเป็นสาวกของพระศาสดา
[190] เขามีจิตเด็ดเดี่ยวยินดีเพื่อบำเพ็ญเพียร
สงบระงับ ไม่มีอุปธิ
กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงเป็นผู้ไม่มีอาสวะแล้วนิพพาน
[191] ข้าพเจ้าขวนขวายออกบวช ละโภคสมบัติ
ไม่มีความรักในโภคะ ซึ่งเหมือนก้อนเขฬะ
[192] ข้าพเจ้ามีความเพียรนำพาธุระไป
อันเป็นเหตุนำธรรมเป็นแดนเกษมจากโยคะมาให้
ข้าพเจ้าทรงร่างกายอันมีในภพสุดท้าย
อยู่ในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[193] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว
ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว
ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ
[194] การที่ข้าพเจ้าได้มาในสำนักของพระพุทธเจ้า
เป็นการมาดีแล้วโดยแท้
วิชชา 3 ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว
