เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [55. ภัททิยวรรค] 6. กาฬุทายีเถราปทาน
[181] ด้วยวิบากกรรมนั้น
และด้วยเจตนาที่ตั้งไว้มั่น
ข้าพเจ้าละกายมนุษย์แล้ว
จึงได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
[182] บัดนี้ ภพนี้เป็นภพสุดท้าย
ข้าพเจ้าเกิดในตระกูลมหาอำมาตย์
ในกรุงกบิลพัสดุ ที่น่ารื่นรมย์
พระเจ้าสุทโธทนะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
[183] ครั้งนั้น เจ้าชายสิทธัตถะผู้ทรงเป็นผู้องอาจกว่านรชน
ได้ประสูติแล้วที่สวนลุมพินี ที่รื่นรมย์
เพื่อเกื้อกูลและเพื่อความสุขแก่สัตว์โลกทั้งมวล
[184] ข้าพเจ้าก็เกิดในวันนั้น
เติบโตพร้อมกับพระสิทธัตถราชกุมารนั้นแหละ
เป็นสหายที่รักเอ็นดู คุ้นเคย และฉลาดในทางนิติธรรม
[185] พระสิทธัตถราชกุมารนั้นมีพระชนมายุ 29 พรรษา
ได้เสด็จออกผนวช บำเพ็ญเพียรตลอด 6 ปี
จึงได้เป็นพระพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นผู้นำวิเศษ
[186] พระองค์ทรงชนะมารพร้อมทั้งเสนามาร
ทรงข้ามห้วงน้ำคือภพได้แล้ว
ได้เป็นพระพุทธเจ้าในโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก
[187] เสด็จไปยังป่าอิสิปตนะ ทรงแนะนำปัญจวัคคีย์
จากนั้น พระผู้มีพระภาคก็เสด็จไปในที่นั้น ๆ
ทรงแนะนำเวไนยสัตว์
[188] พระชินเจ้าพระองค์นั้น เมื่อจะทรงแนะนำเวไนยสัตว์
เมื่อจะทรงสงเคราะห์หมู่มนุษย์พร้อมทั้งทวยเทพ
ได้เสด็จไปถึงภูเขาในแคว้นมคธแล้ว ประทับอยู่ในกาลนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :315 }