เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [42. ภัททาลิวรรค] 8. ยาคุทายกเถราปทาน
[157] เมื่อถึงภพสุดท้าย ข้าพเจ้าได้สละทรัพย์สมบัติทั้งปวง
ออกบวชเป็นบรรพชิต ขณะที่ปลงผมเสร็จ
[158] ข้าพเจ้าพิจารณาร่างกายโดยความสิ้นไปและความเสื่อมไป
ก็ได้บรรลุอรหัตตผลก่อนการรับสิกขาบท
[159] ทานอันประเสริฐที่เกิดจากมือเรา
ซึ่งเราประกอบดีแล้ว ชื่อว่าเป็นอันให้ดีแล้ว
เพราะการถวายข้าวยาคูนั้นเอง
ข้าพเจ้าจึงได้บรรลุบทที่ไม่หวั่นไหว1
[160] ข้าพเจ้าไม่รู้สึกว่ามีความเศร้าโศก ความร่ำไร
ความป่วยไข้ ความกระวนกระวาย
ความเดือดร้อนใจเกิดขึ้นเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายข้าวยาคู
[161] โอหนอ ข้าวยาคูข้าพเจ้าได้ถวายดีแล้วหนอ
ข้าพเจ้าได้ถวายข้าวยาคูแด่หมู่พระสงฆ์
ผู้เป็นเนื้อนาบุญอันยอดเยี่ยม
จึงได้รับอานิสงส์ 5 ประการ
[162] คือ (1) ไม่มีความเจ็บไข้ (2) มีรูปงาม
(3) ตรัสรู้ธรรมเร็วพลัน (4) ได้ข้าวและน้ำ (5) มีอายุยืน
[163] บุคคลใด ๆ ยังโสมนัสให้เกิดอยู่
ถวายข้าวยาคูแด่หมู่พระสงฆ์
บุคคลนั้นเป็นบัณฑิตพึงได้รับอานิสงส์ 5 ประการเหล่านี้
[164] กิจทุกอย่างที่ควรทำ2 ข้าพเจ้าก็ได้ทำเสร็จแล้ว
ภพทั้งหลายข้าพเจ้าก็เพิกถอนได้แล้ว
อาสวะทั้งปวงสิ้นไปแล้ว
บัดนี้ ภพใหม่ไม่มีอีก

เชิงอรรถ :
1 บทที่ไม่หวั่นไหว หมายถึงพระนิพพาน (ขุ.อป.อ. 1/266/276)
2 กิจทุกอย่างที่ควรทำ ในที่นี้หมายถึงการกำจัดกิเลสให้สิ้นไป (ขุ.อป.อ. 1/354/284)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :24 }