เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [49. ปังสุกูลวรรค] 10. สาลมัณฑปิยเถราปทาน
[206] มาณพนี้จุติจากเทวโลกแล้ว
จักมาเกิดเป็นมนุษย์ แม้ในมนุษยโลกนี้
เครื่องมุงบังดอกสาละ จักทรงอยู่ตลอดกาลทั้งปวง
[207] ในมนุษยโลกนี้ การฟ้อนรำและการขับร้อง
ที่ประกอบด้วยเสียงกังสดาลอย่างไพเราะ
จักแวดล้อมมาณพนี้เป็นนิตย์
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[208] และเมื่อดวงอาทิตย์อุทัย ฝนดอกสาละจะตกลง
ฝนดอกสาละที่ประกอบด้วยบุญกรรม
จักตกลงมาตลอดกาลทั้งปวง
[209] ในกัปที่ 1,800 (นับจากกัปนี้ไป)
พระศาสดาพระนามว่าโคดม ตามพระโคตร
ทรงสมภพในราชสกุลโอกกากราชจักอุบัติขึ้นในโลก
[210] มาณพนี้จักเป็นธรรมทายาทของพระศาสดาพระองค์นั้น
เป็นโอรสที่ธรรมเนรมิต
กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงเป็นผู้ไม่มีอาสวะแล้วนิพพาน
[211] เมื่อเขาตรัสรู้ธรรม จักมีเครื่องมุงบังดอกสาละ
เมื่อถูกเผาอยู่บนเชิงตะกอน
ที่เชิงตะกอนนั้นก็จักมีเครื่องมุงบังดอกสาละ
[212] พระมหามุนีพระนามว่าปิยทัสสี
ทรงพยากรณ์วิบากแล้ว แสดงธรรมแก่บริษัท
ให้ชุ่มชื่นด้วยฝนคือธรรม
[213] ข้าพเจ้าได้ครองเทวสมบัติในเทวโลกตลอด 30 กัป
ได้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 67 ชาติ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :163 }