เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [49. ปังสุกูลวรรค] 10. สาลมัณฑปิยเถราปทาน
[197] สาวกของพระศาสดาพระนามว่าปิยทัสสี
ชื่อว่าวรุณะ พร้อมด้วยสาวกผู้ได้วสี 100,000 รูป
ได้เข้าเฝ้าพระศาสดาผู้นำสัตว์โลก
[198] ส่วนพระผู้มีพระภาคพระนามว่าปิยทัสสี
ผู้เจริญที่สุดในโลก ทรงองอาจกว่านรชน
ประทับนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์แล้ว
ทรงทำการแย้มให้ปรากฏ
[199] พระอนุรุทธเถระผู้เป็นพุทธอุปัฏฐากของพระศาสดา
พระนามว่าปิยทัสสี
ห่มจีวรเฉวียงบ่าแล้ว ได้ทูลถามพระมหามุนีว่า
[200] ข้าแต่พระผู้มีพระภาค
อะไรหนอ เป็นเหตุให้พระศาสดาทรงแย้ม
เพราะเมื่อมีเหตุ พระศาสดาจึงทรงทำการแย้มให้ปรากฏ
[201] พระศาสดาตรัสว่า มาณพใดตั้งเครื่องมุงบังดอกสาละ
เพื่อเราไว้ตลอด 7 วัน
เราระลึกถึงกรรมของมาณพนั้น
จึงได้ทำการแย้มให้ปรากฏ
[202] เรายังไม่เห็นโอกาสที่บุญจะไม่ให้ผล
โอกาสในเทวโลกหรือมนุษยโลกยังไม่สงบ
[203] เมื่อเขาผู้เพียบพร้อมด้วยบุญกรรมอยู่ในเทวโลก
บริวารของเขาเท่าที่มี จักมีดอกสาละมุงบัง
[204] เขาเป็นผู้ประกอบด้วยบุญกรรม
จักรื่นรมย์ในเทวโลกนั้นด้วยการฟ้อน
การขับร้อง และการประโคมที่เป็นทิพย์ในกาลทุกเมื่อ
[205] บริวารของเขาเท่าที่มีจักมีกายมีกลิ่นหอมฟุ้ง
และฝนดอกสาละจักตกลงทั่วไปในขณะนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :162 }