เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [40. ปิลินทวัจฉวรรค] 5. ปทุมกูฏาคาริกเถราปทาน
[354] พระมหามุนีพระนามว่าปิยทัสสี ผู้เป็นบุรุษผู้สูงสุด
เสด็จเข้าไปยังไพรสณฑ์
ทรงลาดผ้าบังสุกุลแล้วประทับนั่งอยู่
[355] เมื่อก่อน ข้าพเจ้าเป็นพรานเนื้ออยู่ในป่าดงทึบ
เที่ยวแสวงหาเนื้อฟานอยู่ในครั้งนั้น
[356] ณ ที่นั้น ข้าพเจ้าได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้ข้ามโอฆกิเลสได้แล้ว
ไม่มีอาสวะเด่นอยู่ดุจต้นพญาไม้สาละมีดอกบานสะพรั่ง
และดุจดวงอาทิตย์อุทัย
[357] ครั้นเห็นพระพุทธเจ้าพระนามว่าปิยทัสสี
ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ มีพระยศยิ่งใหญ่แล้ว
จึงลงไปยังชาติสระ นำดอกปทุมมาในขณะนั้น
[358] ครั้นนำดอกปทุมร้อยกลีบซึ่งเป็นที่น่ารื่นรมย์ใจมาแล้ว
จึงสร้างเรือนยอด(ปราสาท)แล้วมุงด้วยดอกปทุม
[359] พระพุทธชินเจ้าพระนามว่าปิยทัสสี ผู้มหามุนี
ผู้ทรงอนุเคราะห์ ประกอบด้วยพระกรุณา
ประทับอยู่ในเรือนยอดตลอด 7 วัน 7 คืน
[360] ข้าพเจ้านำดอกปทุมที่เก่า ๆ ทิ้งแล้ว
มุงด้วยดอกปทุมใหม่
ได้ยืนประคองอัญชลี ในขณะนั้น
[361] พระมหามุนีพระนามว่าปิยทัสสี ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
เสด็จออกจากสมาธิแล้วประทับนั่งเหลียวดูทิศอยู่
[362] ครั้งนั้น พระเถระผู้อุปัฏฐากนามว่าสุทัสสนะ มีฤทธิ์มาก
รู้พระดำริของพระพุทธเจ้าพระนามว่าปิยทัสสี ผู้ศาสดา

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :631 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [40. ปิลินทวัจฉวรรค] 5. ปทุมกูฏาคาริกเถราปทาน
[363] มีภิกษุ 80,000 รูปแวดล้อมแล้ว
เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
ซึ่งประทับนั่งเป็นสุขอยู่ที่ชายป่า
[364] และครั้งนั้น เทวดาที่สิงสถิตอยู่ในไพรสณฑ์
ทราบพระพุทธดำริแล้ว พากันมาประชุมทั้งหมด
[365] เมื่อพวกยักษ์ กุมภัณฑ์ พร้อมทั้งผีเสื้อน้ำมาพร้อมกัน
และเมื่อภิกษุสงฆ์มาถึงพร้อมแล้ว
พระชินเจ้าได้ตรัสพระคาถาว่า
[366] เราจักพยากรณ์ผู้ที่บูชาเราตลอด 7 วัน
และได้สร้างอาวาสถวายเรา
ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าวเถิด
[367] เราจักพยากรณ์สิ่งที่เห็นได้ยากนัก ละเอียดนัก
ลึกซึ้งให้ปรากฏชัดด้วยญาณ
ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าวเถิด
[368] ผู้นั้นจักได้ครองเทวสมบัติตลอด 14 กัป
เรือนยอดของผู้นั้นใหญ่ มุงด้วยดอกปทุม
[369] เทวดาทั้งหลายทรงไว้ในอากาศ
นี้เป็นผลแห่งบุพกรรม
เขาจักเวียนว่ายตายเกิดสับสนใน 114 กัป
[370] ในกัปที่ 114 นั้น
วิมานดอกไม้จักทรงอยู่ในอากาศ
น้ำไม่ติดอยู่บนใบบัวฉันใด
[371] กิเลสทั้งหลายก็ไม่ติดอยู่ในญาณของผู้นี้ฉันนั้น
ผู้นี้จักปลดเปลื้องนิวรณ์ 5 ออกจากใจได้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :632 }