พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [40. ปิลินทวัจฉวรรค] 1. ปิลินทวัจฉเถราปทาน
[108] เพราะตัดลูกศรคือตัณหา
จึงได้ศัสตราคือปัญญาอันยอดเยี่ยม
และญาณที่เสมอด้วยเพชร 1
เพราะผลแห่งกรรมเหล่านั้น
(6. อานิสงส์ของการถวายเข็ม)
[109] ข้าพเจ้าได้ถวายเข็มในพระสุคต
และพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์
ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า 5 ประการ
[110] คือเมื่อข้าพเจ้าเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพน้อยภพใหญ่
เป็นผู้ที่มหาชนนอบน้อม 1
ตัดความสงสัยได้ 1
มีรูปร่างงดงาม 1 มีโภคสมบัติ 1
มีปัญญาฉลาดหลักแหลม 1 ทุกเมื่อ
[111] ข้าพเจ้าพิจารณาเห็นอรรถ
ซึ่งเป็นฐานะละเอียดลึกซึ้งด้วยญาณ
ญาณของข้าพเจ้าเสมอด้วยยอดเพชร
เป็นเครื่องกำจัดความมืด
(7. อานิสงส์ของการถวายมีดตัดเล็บ)
[112] ข้าพเจ้าได้ถวายมีดตัดเล็บในพระสุคต
และพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์
ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า 5 ประการ
[113] คือข้าพเจ้าย่อมได้ทาสชายหญิง 1 โคและม้า 1
ลูกจ้างที่เป็นนางฟ้อนรำ 1 ช่างตัดผม 1
พ่อครัวผู้ทำอาหารจำนวนมากในที่ทั้งปวง 1
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [40. ปิลินทวัจฉวรรค] 1. ปิลินทวัจฉเถราปทาน
(8. อานิสงส์ของการถวายพัดใบตาล)
[114] ข้าพเจ้าได้ถวายพัดใบตาลสวยงามในพระสุคตแล้ว
ได้รับอานิสงส์ 8 ประการ
ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า
[115] คือข้าพเจ้าไม่รู้สึกหนาวร้อน 1
ไม่มีความเร่าร้อน 1
ไม่รู้สึกกระวนกระวาย ที่ทำจิตของข้าพเจ้าให้เร่าร้อน 1
[116] ไฟทั้งหมด คือ ไฟคือราคะ 1 ไฟคือโทสะ 1
ไฟคือโมหะ 1 ไฟคือมานะ 1
ไฟคือทิฏฐิ 1 ข้าพเจ้าดับได้แล้ว
เพราะผลกรรมของข้าพเจ้านั้น
(9. อานิสงส์ของการถวายพัดขนปีกนกยูงและแส้จามร)
[117] ข้าพเจ้าได้ถวายพัดขนปีกนกยูงและแส้จามรในหมู่สงฆ์
และพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุด
เป็นผู้มีกิเลสสงบระงับแล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีกิเลสเพียงดังเนิน
(10. อานิสงส์ของการถวายผ้ากรองน้ำคือธมกรก)
[118] ข้าพเจ้าได้ถวายผ้ากรองน้ำคือธมกรกในพระสุคตแล้ว
ได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า 5 ประการ
[119] คือข้าพเจ้าล่วงพ้นอันตรายทั้งปวงได้ 1 ได้อายุทิพย์ 1
โจรหรือข้าศึกข่มไม่ได้ทุกเมื่อ 1
[120] ศัสตราหรือยาพิษไม่เบียดเบียนข้าพเจ้า 1
ไม่มีความตายในระหว่าง(ไม่ตายก่อนอายุขัย) 1
เพราะผลแห่งกรรมเหล่านั้นของข้าพเจ้า
