เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [35. เอกปทุมวรรค] 5. นฬาคาริกเถราปทาน
พระสยัมภูปัจเจกพุทธเจ้าพระนามว่านารทะ
ประทับอยู่ที่โคนไม้ ในครั้งนั้น
[32] ข้าพเจ้าได้สร้างเรือนไม้อ้อ มุงด้วยหญ้า
แผ้วถางที่จงกรมแล้ว ได้ถวายแด่พระสยัมภู
[33] ในกัปที่ 14 ข้าพเจ้ารื่นรมย์อยู่ในเทวโลก
ได้ครองเทวสมบัติตลอด 74 ชาติ
[34] ได้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 77 ชาติ
และได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์ นับชาติไม่ถ้วน
[35] วิมานของข้าพเจ้าสูงลอยเด่น เหมือนสายรุ้ง
วิมานของข้าพเจ้ามีเสา 1,000 ต้น
มีสีเลื่อมประภัสสร (ไม่มีวิมานอื่นเสมอเหมือน)
[36] ข้าพเจ้าเสวยสมบัติทั้ง 2 แล้ว อันกุศลมูลตักเตือน
จึงออกบวชในศาสนาของพระผู้มีพระภาคพระนามว่าโคดม
[37] ข้าพเจ้าเป็นผู้มีจิตเด็ดเดี่ยวเพื่อบำเพ็ญเพียร
สงบระงับ ไม่มีอุปธิ
ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างไม่มีอาสวะ
ดุจช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ
[38] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระนฬาคาริกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
นฬาคาริกเถราปทานที่ 5 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :526 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [35. เอกปทุมวรรค] 6. จัมปกปุปผิยเถราปทาน
6. จัมปกปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระจัมปกปุปผิยเถระ
(พระจัมปกปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[39] ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมพานต์
มีภูเขาลูกหนึ่งชื่อฉาปละ
พระพุทธเจ้าพระนามว่าสุทัสสนะ
ประทับอยู่ระหว่างภูเขา
[40] ข้าพเจ้าถือดอกจำปาเหาะไปทางอากาศ
ได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากธุลีคือกิเลส
ผู้ข้ามโอฆกิเลสได้แล้ว ไม่มีอาสวะ
[41] ขณะนั้น ข้าพเจ้าได้ยกดอกจำปา 7 ดอกขึ้นไว้เหนือศีรษะ
บูชาพระพุทธเจ้าผู้เป็นพระสยัมภู
ทรงแสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
[42] ในกัปที่ 31 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[43] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระจัมปกปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
จัมปกปุปผิยเถราปทานที่ 6 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :527 }