เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [33. อุมาปุปผิยวรรค] 6. อันนสังสาวกเถราปทาน
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งความทรงจำในพระพุทธเจ้า
[32] ในกัปที่ 27 นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งมีพระนามว่าอรัญญสัตตะ
เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีพลานุภาพมาก
[33] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระนิมิตตสัญญกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
นิมิตตสัญญกเถราปทานที่ 5 จบ

6. อันนสังสาวกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอันนสังสาวกเถระ
(พระอันนสังสาวกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[34] พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีพระฉวีวรรณดังทองคำ
ผู้เสด็จไประหว่างร้านตลาด ผู้เช่นกับทองคำมีค่า
มีพระลักษณะอันประเสริฐ 32 ประการ
[35] พระนามว่าสิทธัตถะ ผู้ให้ประโยชน์ทุกอย่างสำเร็จ
ผู้ไม่ทรงหวั่นไหว ผู้ไม่ทรงพ่ายแพ้
ข้าพเจ้าน้อมนมัสการแล้ว
ทูลนิมนต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้มหามุนีให้เสวยแล้ว
[36] ครั้งนั้น พระมุนีผู้ประกอบด้วยพระกรุณาในโลก
ได้ทำให้ข้าพเจ้าแจ่มใส
ข้าพเจ้าทำจิตให้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าแล้ว
ไปบันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดหนึ่งกัป

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :488 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [33. อุมาปุปผิยวรรค] 7. นิคคุณฑิปุปผิยเถราปทาน
[37] ในกัปที่ 94 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายทานไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายภิกษา
[38] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอันนสังสาวกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อันนสังสาวกเถราปทานที่ 6 จบ

7. นิคคุณฑิปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระนิคคุณฑิปุปผิยเถระ
(พระนิคคุณฑิปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[39] ในกาลใด เทวดาจะจุติจากหมู่เทพเพราะสิ้นอายุ
ในกาลนั้น เทวดาทั้งหลายผู้พลอยยินดี
ย่อมเปล่งเสียง 3 ประการว่า
[40] ท่านผู้เจริญ ท่านจากที่นี้จงไปสู่สุคติ
สู่ความเป็นผู้อยู่ร่วมกับมนุษย์ เป็นมนุษย์แล้ว
จงได้ศรัทธาอย่างยอดเยี่ยมในพระสัทธรรม
[41] ศรัทธาของท่านพึงตั้งมั่นดำรงอยู่ เป็นมูลไว้ เป็นที่พึ่ง
อย่าคลอนแคลนในพระสัทธรรม
ที่พระอริยะประกาศไว้ดีแล้วจนตลอดชีวิต
[42] จงทำกุศลที่ไม่มีความเบียดเบียน
ไม่มีอุปธิทางกาย ทางวาจา ทางใจ ให้มากเถิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :489 }