เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [32. อารักขาทายกวรรค] 6. อาสนสันถวิกเถราปทาน
[27] ข้าพเจ้าออกจากป่าใหญ่ ได้พบพระแท่นสีหาสน์
จึงทำหนังสัตว์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง
ประนมมือสรรเสริญพระพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
[28] ครั้นสรรเสริญพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นผู้นำชั้นเลิศของโลก
ในส่วนกลางวันแล้ว ก็มีจิตร่าเริง เบิกบาน ได้เปล่งวาจานี้ว่า
[29] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นบุรุษอาชาไนย ขอนอบน้อมแด่พระองค์
ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นบุรุษผู้สูงสุด ขอนอบน้อมแด่พระองค์
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้มีความเพียรมาก
ผู้เจริญที่สุดในโลก ทรงองอาจกว่านรชน
พระองค์เป็นพระสัพพัญญู
[30] ข้าพเจ้าได้สรรเสริญพระพุทธเจ้า
พระนามว่าสิขี ด้วยการทำนิมิตอภิวาทอาสนะแล้ว
บ่ายหน้าหลีกไปทางทิศเหนือ
[31] ในกัปที่ 31 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้สรรเสริญพระพุทธเจ้า
ผู้ประเสริญกว่าเจ้าลัทธิทั้งหลายไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการสรรเสริญ
[32] ในกัปที่ 27 นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 7 ชาติ พระนามว่าอตุลยะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ 7 ประการ มีพลานุภาพมาก
[33] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอาสนสันถวิกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อาสนสันถวิกเถราปทานที่ 6 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :477 }