พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [30. จิตกปูชกวรรค] 9. อัมพปิณฑิยเถราปทาน
[37] เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
ทำการขวนขวายช่วยเหลือ
ได้ถึงพระองค์ผู้เป็นจอมแห่งเทวดาและมนุษย์
ผู้คงที่ว่า เป็นสรณะ
[38] ในกัปที่ 91 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งสรณะ
[39] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระสรณคมนิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สรณคมนิยเถราปทานที่ 8 จบ
9. อัมพปิณฑิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอัมพปิณฑิยเถระ
(พระอัมพปิณฑิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[40] ข้าพเจ้าเป็นทานพ(อสูร) มีนามปรากฏว่าโรมสะ
ข้าพเจ้าได้ถวายผลมะม่วงแด่พระพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
[41] ในกัปที่ 91 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายผลมะม่วงไว้ในครั้งนั้น
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [30. จิตกปูชกวรรค] 10. อนุสังสาวกเถราปทาน
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายผลมะม่วง
[42] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอัมพปิณฑิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อัมพปิณฑิยเถราปทานที่ 9 จบ
10. อนุสังสาวกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอนุสังสาวกเถระ
(พระอนุสังสาวกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[43] ข้าพเจ้าได้เห็นพระผู้มีพระภาคชินเจ้า
พระนามว่าวิปัสสี กำลังเสด็จเที่ยวบิณฑบาต
จึงได้ถวายภิกษาทัพพีหนึ่งแด่พระองค์
ผู้เป็นจอมแห่งเทวดาและมนุษย์ ผู้คงที่
[44] ครั้งนั้น ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส มีใจยินดี ได้ถวายอภิวาท
(และ) ได้ประกาศพระพุทธเจ้าให้มหาชนทราบ
เพื่อบรรลุประโยชน์สูงสุด
[45] ในกัปที่ 91 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ประกาศให้มหาชนทราบไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการประกาศ
