เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [22. หัตถิวรรค] 8. อักกันตสัญญกเถราปทาน
[33] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว
ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว
ข้าพเจ้าทรงร่างกายซึ่งมีในภพสุดท้าย
อยู่ในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[34] ในกัปที่ 92 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายพัดใบตาล
[35] ในกัปที่ 63 นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระนามว่ามหาราม
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ 7 ประการ มีพลานุภาพมาก
[36] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระตาลวัณฏทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ตาลวัณฏทายกเถราปทานที่ 7 จบ

8. อักกันตสัญญกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระอักกันตสัญญกเถระ
(พระอักกันตสัญญกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[37] ข้าพเจ้าหยิบผ้าสาฎกผืนน้อย(ผ้าปิดแผล)
ในผ้าห่มของพระอุปัชฌาย์
กำลังพร่ำศึกษามนตร์ เพื่อบรรลุวิชาสูญฝี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :385 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [22. หัตถิวรรค] 8. อักกันตสัญญกเถราปทาน
[38] ได้เห็นพระพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ ผู้ปราศจากธุลีคือกิเลส
ผู้สมควรรับเครื่องบูชา ผู้องอาจ ผู้ประเสริฐ ผู้ล้ำเลิศ
ผู้ตรัสรู้ดีแล้ว ดุจพญาคชสารตัวประเสริฐ
[39] ผู้เป็นนรชนสูงสุด ผู้ล้ำเลิศ ทรงมีความเพียรมาก
ผู้เจริญที่สุดในโลก ทรงองอาจกว่านรชน
ทรงเหยียบผ้าสาฎกผืนน้อยที่ข้าพเจ้าลาดไว้
[40] ครั้นข้าพเจ้าได้เห็นพระองค์ผู้ส่องแสงสว่างในโลก
ปราศจากมลทิน ดังดวงจันทร์(ในวันเพ็ญ)
จึงได้ถวายอภิวาทพระบาทของพระศาสดาด้วยจิตที่ผ่องใส
[41] ในกัปที่ 94 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ถวายผ้าสาฎกผืนน้อยไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายผ้าสาฎกผืนน้อย
[42] ในกัปที่ 37 นับจากกัปนี้ไป
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่ง มีพระนามว่าสุนันทะ
เป็นใหญ่ในหมู่ชน มีพลานุภาพมาก
[43] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระอักกันตสัญญกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
อักกันตสัญญกเถราปทานที่ 8 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :386 }