เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [9. ติมิรปุปผิยวรรค] 1. ติมิรปุปผิยเถราปทาน
9. ติมิรปุปผิยวรรค
หมวดว่าด้วยพระติมิรปุปผิยะเป็นต้น
1. ติมิรปุปผิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระติมิรปุปผิยเถระ
(พระติมิรปุปผิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[1] ข้าพเจ้าเที่ยวไปตามกระแสน้ำ ใกล้ฝั่งแม่น้ำจันทภาคา
ได้เห็นพระสมณะ ผู้ผ่องใสไม่ขุ่นมัว ประทับนั่งอยู่
[2] ข้าพเจ้าจึงทำจิตให้เลื่อมใสในพระสมณะนั้นแล้ว
จึงได้คิดอย่างนี้ในครั้งนั้นว่า พระผู้มีพระภาคนี้
ทรงข้ามเองแล้ว จักช่วยสรรพสัตว์ให้ข้าม(วัฏสงสาร)
ทรงฝึกตนเองแล้ว จักทรงฝึกสรรพสัตว์
[3] ทรงเบาพระทัยเองแล้ว จักทรงช่วยสรรพสัตว์ให้เบาใจ
ทรงสงบเองแล้ว จักทรงช่วยสรรพสัตว์ให้สงบ
ทรงพ้นเองแล้ว จักทรงช่วยสรรพสัตว์ให้พ้น
ทรงสงบเย็นเองแล้ว จักทรงช่วยสรรพสัตว์ให้สงบเย็น
[4] ข้าพเจ้าครั้นคิดอย่างนี้แล้ว ได้ถือดอกดีหมี
มาโปรยเหนือพระเศียรของพระพุทธเจ้า
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่พระนามว่าสิทธัตถะ ในครั้งนั้น
[5] ข้าพเจ้าประคองอัญชลีและทำประทักษิณพระองค์
กราบพระยุคลบาทของพระศาสดาแล้ว จึงหลีกไปยังทิศอื่น
[6] พญาเนื้อได้เบียดเบียนข้าพเจ้า ผู้พอไปแล้วไม่นาน
ข้าพเจ้าเดินไปตามริมเหว ได้ตกลงไป(ตาย)ในเหวนั้นนั่นเอง
[7] ในกัปที่ 94 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ใช้ดอกไม้บูชาไว้
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :228 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [9. ติมิรปุปผิยวรรค] 2. คตสัญญกเถราปทาน
[8] ในกัปที่ 56 (นับจากกัปนี้ไป)
ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 7 ชาติ พระนามว่ามหายสะ
สมบูรณ์ด้วยรัตนะ 7 ประการ มีพลานุภาพมาก
[9] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระติมิรปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
ติมิรปุปผิยเถราปทานที่ 1 จบ

2. คตสัญญกเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระคตสัญญกเถระ
(พระคตสัญญกเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[10] ข้าพเจ้ามีอายุไว้ 7 ขวบ ก็ได้ออกบวชเป็นบรรพชิต
มีจิตผ่องใส ได้กราบพระยุคลบาทของพระศาสดา
[11] ข้าพเจ้าได้โยนดอกดิน1 7 ดอกไปในอากาศ
อุทิศเฉพาะพระพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ
ผู้ทรงพระคุณหาที่สุดมิได้ดังสาคร
[12] ข้าพเจ้ามีใจร่าเริง เลื่อมใสแล้ว
บูชาหนทางที่พระสุคตเสด็จดำเนินไป
ได้ประนมมือทั้ง 2 ของตนไหว้พระสุคต
[13] ในกัปที่ 92 นับจากกัปนี้ไป
ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น
จึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า

เชิงอรรถ :
1 ดอกดิน หมายถึงดอกไม้ที่เกิดในพื้นที่นา (ขุ.อป.อ. 2/10/129)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :229 }