เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [4. กุณฑธานวรรค] 4. กาฬุทายีเถราปทาน
ประทับนั่งในท่ามกลางหมู่ภิกษุแล้ว
ทรงตั้งข้าพเจ้าไว้ในเอตทัคคะ
[47] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8
และอภิญญา 6 ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระมหากัจจายนเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
มหากัจจายนเถราปทานที่ 3 จบ

4. กาฬุทายีเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระกาฬุทายีเถระ
(พระกาฬุทายีเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[48] เมื่อพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ
ผู้เจริญที่สุดในโลก ผู้คงที่
เสด็จดำเนินทางไกลเที่ยวจาริกไปในครั้งนั้น
[49] ข้าพเจ้าได้ถือดอกปทุม ดอกอุบล
และดอกมะลิซ้อน ที่บานสะพรั่ง
และถือข้าว(สุก)ชั้นดีมาถวายพระศาสดา
[50] พระมหาวีระเสวยข้าวสุกชั้นดี โภชนะอย่างดี
อนึ่ง กาฬุทายีรับดอกไม้นั้นแล้ว มอบถวายแก่พระชินเจ้า
[51] ผู้ที่ได้ถวายดอกปทุมชั้นดีเยี่ยม
ที่น่าปรารถนา น่าใคร่นี้แก่เรา ชื่อว่าทำสิ่งที่ทำได้ยาก
[52] เราจักพยากรณ์ผู้ที่ได้ใช้ดอกไม้บูชา
และได้ถวายข้าวสุกชั้นดีแก่เรา
ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าวเถิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :156 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [4. กุณฑธานวรรค] 4. กาฬุทายีเถราปทาน
[53] ผู้นั้นจักครองเทวสมบัติ 18 ชาติ
ดอกอุบล ดอกปทุม และดอกมะลิซ้อน จะมีในเบื้องบนผู้นั้น
[54] ด้วยผลบุญของเขา ผู้คนจักสร้างหลังคา
ประกอบด้วยของหอมที่เป็นทิพย์กั้นไว้ในอากาศ ในเวลานั้น
[55] เขาจักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 25 ชาติ
จักเป็นพระเจ้าแผ่นดินครองแผ่นดิน 500 ชาติ
[56] ในกัปที่ 100,000 (นับจากกัปนี้ไป)
พระศาสดาพระนามว่าโคดม ตามพระโคตร
ทรงสมภพในราชสกุลโอกกากราช จักอุบัติขึ้นในโลก
[57] เขายินดียิ่งในกรรมของตน
ถูกกุศลมูลตักเตือนแล้วจักเกิดเป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระญาติ
ที่ก่อให้เกิดความเพลิดเพลินแก่พวกเจ้าศากยะ
[58] และภายหลังเขาถูกกุศลมูลตักเตือนแล้วบวช
กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงจักเป็นผู้ไม่มีอาสวะแล้วนิพพาน
[59] พระโคดมผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของโลก
จักทรงตั้งเขา ผู้บรรลุปฏิสัมภิทา ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว
ไม่มีอาสวะไว้ในเอตทัคคะ
[60] เขามีจิตเด็ดเดี่ยวเพื่อบำเพ็ญเพียร
เป็นผู้สงบระงับ ไม่มีอุปธิ มีนามว่าอุทายี ตามโคตร
จักเป็นสาวกของพระศาสดา
[61] ราคะ โทสะ โมหะ มานะ และมักขะอันข้าพเจ้ากำจัดได้แล้ว
ข้าพเจ้ากำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
[62] ข้าพเจ้ามีความเพียร มีปัญญารักษาตน
ทำให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพอพระทัยแล้ว
และพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงยินดี
ได้ทรงตั้งข้าพเจ้าไว้ในตำแหน่งอันเลิศ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 32 หน้า :157 }