พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค [2. ยุคนัทธวรรค] 7. ธัมมจักกกถา 2. สติปัฏฐานวาร
ก็การพิจารณาเห็นกายในกายนี้นั้นควรเจริญ ฯลฯ จักษุเกิดขึ้นแล้ว ฯลฯ แสงสว่าง
เกิดขึ้นแล้วแก่เราในธรรมทั้งหลายที่ไม่เคยได้ฟังมาก่อนว่า ก็การพิจารณาเห็น
กายในกายนี้นั้นเราเจริญแล้ว
จักษุเกิดขึ้นแล้ว ฯลฯ แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแก่เราในธรรมทั้งหลายที่ไม่เคย
ได้ฟังมาก่อนว่า นี้การพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลาย ฯลฯ
จักษุเกิดขึ้นแล้ว ฯลฯ แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแก่เราในธรรมทั้งหลายที่ไม่เคย
ได้ฟังมาก่อนว่า นี้การพิจารณาเห็นจิตในจิต ฯลฯ
จักษุเกิดขึ้นแล้ว ฯลฯ แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแก่เราในธรรมทั้งหลายที่ไม่เคย
ได้ฟังมาก่อนว่า นี้การพิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลาย
จักษุเกิดขึ้นแล้ว ฯลฯ แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแก่เราในธรรมทั้งหลายที่ไม่เคย
ได้ฟังมาก่อนว่า การพิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายนี้นั้นควรเจริญ ฯลฯ
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแก่เราในธรรมทั้งหลายที่ไม่เคยได้ฟังมาก่อนว่า การพิจารณา
เห็นธรรมในธรรมทั้งหลายนี้นั้นเราเจริญแล้ว
จักษุเกิดขึ้นแล้ว ฯลฯ แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแก่เราในธรรมทั้งหลายที่ไม่เคย
ได้ฟังมาก่อนว่า นี้การพิจารณาเห็นกายในกาย ฯลฯ แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแก่
เราในธรรมทั้งหลายที่ไม่เคยได้ฟังมาก่อนว่า การพิจารณาเห็นกายในกายนี้นั้น
ควรเจริญ ฯลฯ แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแก่เราในธรรมทั้งหลายที่ไม่เคยได้ฟังมาก่อนว่า
การพิจารณาเห็นกายในกายนี้นั้นเราเจริญแล้ว
คำว่า จักษุเกิดขึ้นแล้ว เพราะมีสภาวะอย่างไร ฯลฯ คำว่า แสงสว่าง
เกิดขึ้นแล้ว เพราะมีสภาวะอย่างไร
คือ คำว่า จักษุเกิดขึ้นแล้ว เพราะมีสภาวะเห็น ฯลฯ คำว่า แสงสว่าง
เกิดขึ้นแล้ว เพราะมีสภาวะสว่างไสว
จักษุเป็นธรรม สภาวะที่เห็นเป็นอรรถ ฯลฯ แสงสว่างเป็นธรรม สภาวะที่
สว่างไสวเป็นอรรถ ธรรม 5 ประการ อรรถ 5 ประการนี้เป็นที่ตั้งแห่งกาย เป็น
ที่ตั้งแห่งสติปัฏฐาน ฯลฯ เป็นที่ตั้งแห่งเวทนา เป็นที่ตั้งแห่งสติปัฏฐาน ฯลฯ