เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค [1. มหาวรรค] 2. ทิฏฐิกถา 15-16. ภววิภวทิฏฐินิทเทส
การถือว่า “นั่นเป็นอัตตาของเรา” เป็นทิฏฐิอะไร เป็นทิฏฐิเท่าไร ทิฏฐิเหล่านั้น
ตามถือส่วนสุดอันไหน
การถือว่า “นั่นของเรา” เป็นปุพพันตานุทิฏฐิ เป็นทิฏฐิ 18 ทิฏฐิเหล่านั้นตามถือ
ขันธ์ส่วนอดีต
การถือว่า “เราเป็นนั่น” เป็นอปรันตานุทิฏฐิ เป็นทิฏฐิ 44 ทิฏฐิเหล่านั้น
ตามถือขันธ์ส่วนอนาคต
การถือว่า “นั่นเป็นอัตตาของเรา” เป็นอัตตานุทิฏฐิมีวัตถุ 20 เป็นสักกาย-
ทิฏฐิมีวัตถุ 20 ทิฏฐิ 62 มีสักกายทิฏฐิเป็นประธาน ทิฏฐิเหล่านั้นตามถือขันธ์
ส่วนอดีตและส่วนอนาคต
[151] ภิกษุทั้งหลาย บุคคลเหล่าใดเหล่าหนึ่งเป็นผู้มีความเชื่อในเรา
บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิเหล่านั้น
5 จำพวกสำเร็จในโลกนี้ 5 จำพวกละโลกนี้แล้วจึงสำเร็จ
บุคคล 5 จำพวกไหนสำเร็จในโลกนี้ คือ

1. สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน1 2. โกลังโกลโสดาบัน2
3. เอกพีชีโสดาบัน3 4. พระสกทาคามี4
5. พระอรหันต์ในปัจจุบัน

บุคคล 5 จำพวกนี้สำเร็จในโลกนี้

เชิงอรรถ :
1 สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน หมายถึงพระโสดาบันผู้ละสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ประการได้แล้ว เป็นผู้ไม่ตกไปใน
อบาย 4 มีความแน่นอนที่จะตรัสรู้มรรค 3 เบื้องสูง (องฺ.ติก.อ. 2/83/242) เมื่อจะเกิดในภพใหม่เป็นเทวดา
หรือมนุษย์ก็เกิดได้ไม่เกิน 7 ครั้ง (อภิ.ปุ.(แปล) 36/31/122, อภิ.ปญฺจ.อ. 31/53)
2 โกลังโกลโสดาบัน หมายถึงพระโสดาบันผู้เมื่อจะเกิดในภพใหม่เป็นเทวดาหรือมนุษย์ก็เกิดได้ 2 หรือ
3 ภพ และถ้าเกิดเป็นมนุษย์ก็ไม่เกิดในตระกูลต่ำ คือเกิดในตระกูลที่มีโภคสมบัติมากเท่านั้น (อภิ.ปุ.(แปล)
36/31/122-3, อภิ.ปญฺจ.อ. 31/5)
3 เอกพีชีโสดาบัน หมายถึงผู้มีพืชคืออัตภาพเดียว คือเกิดครั้งเดียวก็จะบรรลุพระอรหันต์ (องฺ.ติก.อ.
2/88/242, องฺ.ติก.ฏีกา 2/88/237)
4 พระสกทาคามี หมายถึงผู้กลับมาสู่กามภพอีกครั้งเดียวด้วยสามารถปฏิสนธิ (ขุ.ป.อ. 2/151/78)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 31 หน้า :230 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค [1. มหาวรรค] 2. ทิฏฐิกถา 15-16. ภววิภวทิฏฐินิทเทส
บุคคล 5 จำพวกไหนละโลกนี้แล้วจึงสำเร็จ คือ
1. อันตราปรินิพพายีอนาคามีบุคคล1
2. อุปหัจจปรินิพพายีอนาคามีบุคคล2
3. อสังขารปรินิพพายีอนาคามีบุคคล3
4. สสังขารปรินิพพายีอนาคามีบุคคล4
5. อุทธังโสโตอกนิฏฐคามีอนาคามีบุคคล5
บุคคล 5 จำพวกนี้ละโลกนี้แล้วจึงสำเร็จ
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลเหล่าใดเหล่าหนึ่งเป็นผู้มีความเชื่อในเรา บุคคลเหล่านั้น
ทั้งหมดเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิเหล่านั้น 5 จำพวกนี้
สำเร็จในโลกนี้ 5 จำพวกนี้ละโลกนี้แล้วจึงสำเร็จ
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลเหล่าใดเหล่าหนึ่ง เป็นผู้มีความเลื่อมใสไม่คลอนแคลน
ในเรา บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดเป็นพระโสดาบัน พระโสดาบันเหล่านั้น 5 จำพวก
สำเร็จในโลกนี้ 5 จำพวกละโลกนี้แล้วจึงสำเร็จ

เชิงอรรถ :
1 อันตราปรินิพพายีอนาคามีบุคคล หมายถึงพระอนาคามีผู้ปรินิพพานในระหว่าง คือเกิดในสุทธาวาส
ภพใดภพหนึ่งแล้ว อายุยังไม่ถึงกึ่งก็ปรินิพพาน มี 3 จำพวก คือ พวกที่ 1 เกิดในชั้นสุทธาวาสอวิหาซึ่ง
มีอายุ 1,000 กัป แต่ก็บรรลุพระอรหัตตผลในวันที่เกิด ถ้าไม่บรรลุในวันที่เกิดก็บรรลุภายใน 100 กัป
พวกที่ 2 เมื่อไม่สามารถบรรลุพระอรหัตตผลในวันที่เกิดก็บรรลุไม่เกินภายใน 200 กัป พวกที่ 3 บรรลุ
พระอรหัตตผลไม่เกินภายใน 400 กัป (องฺ.ติก.อ. 2/88/243)
2 อุปหัจจปรินิพพายีอนาคามีบุคคล หมายถึงพระอนาคามีผู้เกิดในสุทธาวาสภพใดภพหนึ่งแล้วจวนถึง
ปรินิพพาน คืออายุพ้นกึ่งแล้วจวนถึงสิ้นอายุจึงปรินิพพาน (องฺ.ติก.อ. 2/88/243)
3 อสังขารปรินิพพายีอนาคามีบุคคล หมายถึงพระอนาคามีผู้ปรินิพพานโดยไม่ต้องใช้ความเพียรมาก
(องฺ.ติก.อ. 2/88/243)
4 สสังขารปรินิพพายีอนาคามีบุคคล หมายถึงพระอนาคามีผู้เกิดในสุทธาวาสภพใดภพหนึ่งแล้ว
ปรินิพพานโดยต้องใช้ความเพียรมาก (องฺ.ติก.อ. 2/88/243)
5 อุทธังโสโตอกนิฏฐอนาคามีบุคคล หมายถึงพระอนาคามีผู้มีกระแสในเบื้องบนไปสู่อกนิฏฐภพ คือเกิดใน
สุทธาวาสภพใดภพหนึ่งแล้วก็จะเกิดเลื่อนต่อไปจนถึงอกนิฏฐภพแล้วจึงปรินิพพานในภพนั้น (องฺ.ติก.อ.
2/88/242)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 31 หน้า :231 }