เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค [1. มหาวรรค] 2. ทิฏฐิกถา 15-16. ภววิภวทิฏฐินิทเทส
นรชนใดเป็นคนมักโกรธ
ผูกโกรธ มีความลบหลู่อันชั่วร้าย
มีทิฏฐิวิบัติ เจ้าเล่ห์
พึงรู้จักนรชนนั้นว่า เป็นคนเลว
นรชนใดไม่เป็นคนมักโกรธ
ไม่ผูกโกรธ ไม่ลบหลู่คุณท่าน
ถึงความเป็นผู้บริสุทธิ์ มีทิฏฐิสมบัติ มีปัญญา
พึงรู้จักนรชนนั้นว่า เป็นผู้ประเสริฐ ดังนี้
ทิฏฐิวิบัติ 3 ประการ ทิฏฐิสมบัติ 3 ประการ
ทิฏฐิวิบัติ 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. ทิฏฐิวิบัติว่า “นั่นของเรา”
2. ทิฏฐิวิบัติว่า “เราเป็นนั่น”
3. ทิฏฐิวิบัติว่า “นั่นเป็นอัตตาของเรา”
ทิฏฐิวิบัติ 3 ประการนี้
ทิฏฐิสมบัติ 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. ทิฏฐิสมบัติว่า “นั่นไม่ใช่ของเรา”
2. ทิฏฐิสมบัติว่า “เราไม่เป็นนั่น”
3. ทิฏฐิสมบัติว่า “นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา”
ทิฏฐิสมบัติ 3 ประการนี้
การถือว่า “นั่นของเรา” เป็นทิฏฐิอะไร เป็นทิฏฐิเท่าไร ทิฏฐิเหล่านั้นตามถือ
ส่วนสุดอันไหน
การถือว่า “เราเป็นนั่น” เป็นทิฏฐิอะไร เป็นทิฏฐิเท่าไร ทิฏฐิเหล่านั้นตามถือ
ส่วนสุดอันไหน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 31 หน้า :229 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค [1. มหาวรรค] 2. ทิฏฐิกถา 15-16. ภววิภวทิฏฐินิทเทส
การถือว่า “นั่นเป็นอัตตาของเรา” เป็นทิฏฐิอะไร เป็นทิฏฐิเท่าไร ทิฏฐิเหล่านั้น
ตามถือส่วนสุดอันไหน
การถือว่า “นั่นของเรา” เป็นปุพพันตานุทิฏฐิ เป็นทิฏฐิ 18 ทิฏฐิเหล่านั้นตามถือ
ขันธ์ส่วนอดีต
การถือว่า “เราเป็นนั่น” เป็นอปรันตานุทิฏฐิ เป็นทิฏฐิ 44 ทิฏฐิเหล่านั้น
ตามถือขันธ์ส่วนอนาคต
การถือว่า “นั่นเป็นอัตตาของเรา” เป็นอัตตานุทิฏฐิมีวัตถุ 20 เป็นสักกาย-
ทิฏฐิมีวัตถุ 20 ทิฏฐิ 62 มีสักกายทิฏฐิเป็นประธาน ทิฏฐิเหล่านั้นตามถือขันธ์
ส่วนอดีตและส่วนอนาคต
[151] ภิกษุทั้งหลาย บุคคลเหล่าใดเหล่าหนึ่งเป็นผู้มีความเชื่อในเรา
บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิเหล่านั้น
5 จำพวกสำเร็จในโลกนี้ 5 จำพวกละโลกนี้แล้วจึงสำเร็จ
บุคคล 5 จำพวกไหนสำเร็จในโลกนี้ คือ

1. สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน1 2. โกลังโกลโสดาบัน2
3. เอกพีชีโสดาบัน3 4. พระสกทาคามี4
5. พระอรหันต์ในปัจจุบัน

บุคคล 5 จำพวกนี้สำเร็จในโลกนี้

เชิงอรรถ :
1 สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน หมายถึงพระโสดาบันผู้ละสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ประการได้แล้ว เป็นผู้ไม่ตกไปใน
อบาย 4 มีความแน่นอนที่จะตรัสรู้มรรค 3 เบื้องสูง (องฺ.ติก.อ. 2/83/242) เมื่อจะเกิดในภพใหม่เป็นเทวดา
หรือมนุษย์ก็เกิดได้ไม่เกิน 7 ครั้ง (อภิ.ปุ.(แปล) 36/31/122, อภิ.ปญฺจ.อ. 31/53)
2 โกลังโกลโสดาบัน หมายถึงพระโสดาบันผู้เมื่อจะเกิดในภพใหม่เป็นเทวดาหรือมนุษย์ก็เกิดได้ 2 หรือ
3 ภพ และถ้าเกิดเป็นมนุษย์ก็ไม่เกิดในตระกูลต่ำ คือเกิดในตระกูลที่มีโภคสมบัติมากเท่านั้น (อภิ.ปุ.(แปล)
36/31/122-3, อภิ.ปญฺจ.อ. 31/5)
3 เอกพีชีโสดาบัน หมายถึงผู้มีพืชคืออัตภาพเดียว คือเกิดครั้งเดียวก็จะบรรลุพระอรหันต์ (องฺ.ติก.อ.
2/88/242, องฺ.ติก.ฏีกา 2/88/237)
4 พระสกทาคามี หมายถึงผู้กลับมาสู่กามภพอีกครั้งเดียวด้วยสามารถปฏิสนธิ (ขุ.ป.อ. 2/151/78)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 31 หน้า :230 }