เมนู

5. ปฐมสีลสุตฺตวณฺณนา

[32] ปญฺจเม ปาปเกน จ สีเลนาติ ปาปกํ นาม สีลํ สีลเภทกโร อสํวโรติ วทนฺติฯ ตตฺถ ยทิ อสํวโร อสีลเมว ตํทุสฺสีลฺยภาวโต, กถํ สีลนฺติ วุจฺจติ? ตตฺถายํ อธิปฺปาโย สิยา – ยถา นาม โลเก อทิฏฺฐํ ‘‘ทิฏฺฐ’’นฺติ วุจฺจติ, อสีลวา ‘‘สีลวา’’ติ, เอวมิธาปิ อสีลมฺปิ อสํวโรปิ ‘‘สีล’’นฺติ โวหรียติฯ อถ วา ‘‘กตเม จ, ถปติ, อกุสลา สีลา? อกุสลํ กายกมฺมํ, อกุสลํ วจีกมฺมํ, ปาปโก อาชีโว’’ติ (ม. นิ. 2.264) วจนโต อกุสลธมฺเมสุปิ อตฺเถว สีลสมญฺญา, ตสฺมา ปริจยวเสน สภาวสิทฺธิ วิย ปกติภูโต สพฺโพ สมาจาโร ‘‘สีล’’นฺติ วุจฺจติฯ ตตฺถ ยํ อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเฐน อกุสลํ ลามกํ, ตํ สนฺธายาห ‘‘ปาปเกน จ สีเลนา’’ติฯ ปาปิกาย จ ทิฏฺฐิยาติ สพฺพาปิ มิจฺฉาทิฏฺฐิโย ปาปิกาวฯ วิเสสโต ปน อเหตุกทิฏฺฐิ, อกิริยทิฏฺฐิ, นตฺถิกทิฏฺฐีติ อิมา ติวิธา ทิฏฺฐิโย ปาปิกตราฯ ตตฺถ ปาปเกน สีเลน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ปโยควิปนฺโน โหติ, ปาปิกาย ทิฏฺฐิยา สมนฺนาคโต อาสยวิปนฺโน โหติ, เอวํ ปโยคาสยวิปนฺโน ปุคฺคโล นิรยูปโค โหติเยวฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต, เอวํ นิรเย’’ติฯ เอตฺถ จ ‘‘ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต’’ติ อิทํ ลกฺขณวจนํ ทฏฺฐพฺพํ, น ตนฺตินิทฺเทโสฯ ยถา ตํ โลเก ‘‘ยทิเม พฺยาธิตา สิยุํ, อิเมสํ อิทํ เภสชฺชํ ทาตพฺพ’’นฺติฯ อญฺเญสุปิ อีทิเสสุ ฐาเนสุ เอเสว นโยฯ ทุปฺปญฺโญติ นิปฺปญฺโญฯ

ปญฺจมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

6. ทุติยสีลสุตฺตวณฺณนา

[33] ฉฏฺเฐ ภทฺทเกน จ สีเลนาติ กายสุจริตาทิจตุปาริสุทฺธิสีเลนฯ ตญฺหิ อขณฺฑาทิสีลภาเวน สยญฺจ กลฺยาณํ, สมถวิปสฺสนาทิกลฺยาณคุณาวหํ จาติ ‘‘ภทฺทก’’นฺติ วุจฺจติฯ ภทฺทิกาย จ ทิฏฺฐิยาติ กมฺมสฺสกตาญาเณน เจว กมฺมปถสมฺมาทิฏฺฐิยา จฯ ตตฺถ ภทฺทเกน สีเลน ปโยคสมฺปนฺโน โหติ, ภทฺทิกาย ทิฏฺฐิยา อาสยสมฺปนฺโนฯ อิติ ปโยคาสยสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สคฺคูปโค โหติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อิเมหิ, โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต, เอวํ สคฺเค’’ติฯ สปฺปญฺโญติ ปญฺญวาฯ เสสํ สุวิญฺเญยฺยเมวฯ

ฉฏฺฐสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

7. อาตาปีสุตฺตวณฺณนา

[34] สตฺตเม อนาตาปีติ กิเลสานํ อาตาปนฏฺเฐน อาตาโป, วีริยํ, โส เอตสฺส อตฺถีติ อาตาปี, น อาตาปี อนาตาปี, สมฺมปฺปธานวิรหิโต กุสีโตติ วุตฺตํ โหติฯ โอตฺตาโป วุจฺจติ ปาปุตฺราโส, โส เอตสฺส อตฺถีติ โอตฺตาปี, น โอตฺตาปี อโนตฺตาปี, โอตฺตาปรหิโตฯ อถ วา อาตาปปฺปฏิปกฺโข อนาตาโป, โกสชฺชํ โส อสฺส อตฺถีติ อนาตาปีฯ ยํ ‘‘น โอตฺตปติ โอตฺตปฺปิตพฺเพน, น โอตฺตปติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา’’ติ เอวํ วุตฺตํ, ตํ อโนตฺตปฺปํ อโนตฺตาโปฯ โส อสฺส อตฺถีติ อโนตฺตาปีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ

อภพฺโพติ อนรโหฯ สมฺโพธายาติ อริยมคฺคตฺถายฯ นิพฺพานายาติ กิเลสานํ อจฺจนฺตวูปสมาย อมตมหานิพฺพานายฯ อนุตฺตรสฺส โยคกฺเขมสฺสาติ อรหตฺตผลสฺสฯ ตญฺหิ อุตฺตริตรสฺส อภาวโต อนุตฺตรํ, จตูหิ โยเคหิ อนุปทฺทุตตฺตา เขมํ นิพฺภยนฺติ โยคกฺเขมนฺติ จ วุจฺจติฯ อธิคมายาติ ปตฺติยาฯ อาตาปีติ วีริยวาฯ โส หิ ‘‘อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ (ที. นิ. 3.345) เอวํ วุตฺเตน วีริยารมฺเภน สมนฺนาคโต กิเลสานํ อจฺจนฺตเมว อาตาปนสีโลติ อาตาปีฯ โอตฺตาปีติ ‘‘ยํ โอตฺตปติ โอตฺตปฺปิตพฺเพน, โอตฺตปติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา’’ติ (ธ. ส. 31) เอวํ วุตฺเตน โอตฺตปฺเปน สมนฺนาคตตฺตา โอตฺตปนสีโลติ โอตฺตปฺปีฯ อยญฺหิ โอตฺตาปีติ วุตฺโตฯ ตทวินาภาวโต หิริยา จ สมนฺนาคโต เอว โหตีติ หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺโน อณุมตฺเตปิ วชฺเช ภยทสฺสาวี สีเลสุ ปริปูรการี โหติฯ อิจฺจสฺส สีลสมฺปทา ทสฺสิตาฯ อาตาปีติ อิมินา นเยนสฺส กิเลสปริตาปิตาทีปเนน สมถวิปสฺสนาภาวนานุยุตฺตตา ทสฺสิตาฯ ยถาวุตฺตญฺจ วีริยํ สทฺธาสติสมาธิปญฺญาหิ วินา น โหตีติ วิมุตฺติปริปาจกานิ สทฺธาปญฺจมานิ อินฺทฺริยานิ อตฺถโต วุตฺตาเนว โหนฺติฯ เตสุ จ สิทฺเธสุ อนิจฺเจ อนิจฺจสญฺญา, อนิจฺเจ ทุกฺขสญฺญา, ทุกฺเข อนตฺตสญฺญา, ปหานสญฺญา, วิราคสญฺญา, นิโรธสญฺญาติ ฉ นิพฺเพธภาคิยา สญฺญา สิทฺธา เอวาติฯ