เมนู

ตถา หิ สา กุสเลหิ วินา อกุสเลหิ, กามาวจราทิกุสเลหิ จ วินา รูปาวจราทิกุสเลหิ ภวนิพฺพตฺติยา วิเสสปฺปจฺจโย, ยโต สมุทยสจฺจนฺติ วุจฺจตีติฯ อิตฺถภาวญฺญถาภาวนฺติ อิตฺถภาโว จ อญฺญถาภาโว จ อิตฺถภาวญฺญถาภาโวฯ โส เอตสฺส อตฺถีติ อิตฺถภาวญฺญถาภาโว สํสาโร, ตํ ตตฺถ อิตฺถภาโว มนุสฺสตฺตํ, อญฺญถาภาโว ตโต อวสิฏฺฐสตฺตาวาสาฯ อิตฺถภาโว วา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ปจฺจุปฺปนฺโน อตฺตภาโว, อญฺญถาภาโว อนาคตตฺตภาโวฯ เอวรูโป วา อญฺโญปิ อตฺตภาโว อิตฺถภาโว, น เอวรูโป อญฺญถาภาโวฯ ตํ อิตฺถภาวญฺญถาภาวํ สํสารํ ขนฺธธาตุอายตนปฏิปาฏิํ นาติวตฺตติ, น อติกฺกมติฯ

เอตมาทีนวํ ญตฺวา, ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวนฺติ เอตํ สกลวฏฺฏทุกฺขสฺส สมฺภวํ สมุทยํ ตณฺหํ อาทีนวํ อาทีนวโต ญตฺวาติ อตฺโถฯ อถ วา เอตมาทีนวํ ญตฺวาติ เอตํ ยถาวุตฺตํ สํสารนาติวตฺตนํ อาทีนวํ โทสํ ญตฺวาฯ ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวนฺติ ตณฺหญฺจ วุตฺตนเยน วฏฺฏทุกฺขสฺส ปธานการณนฺติ ญตฺวาฯ วีตตณฺโห อนาทาโน, สโต ภิกฺขุ, ปริพฺพเชติ เอวํ ตีหิ ปริญฺญาหิ ปริชานนฺโต วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา ตณฺหํ วิคเมนฺโต อคฺคมคฺเคน สพฺพโส วีตตณฺโห วิคตตณฺโห, ตโต เอว จตูสุ อุปาทาเนสุ กสฺสจิปิ อภาเวน อายติํ ปฏิสนฺธิสงฺขาตสฺส วา อาทานสฺส อภาเวน อนาทาโน, สติเวปุลฺลปฺปตฺติยา สพฺพตฺถ สโตการิตาย สโต ภินฺนกิเลโส ภิกฺขุ ปริพฺพเช จเรยฺย, ขนฺธปรินิพฺพาเนน วา สงฺขารปฺปวตฺติโต อปคจฺเฉยฺยาติ อตฺโถฯ

ปญฺจมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

6. ปฐมเสขสุตฺตวณฺณนา

[16] ฉฏฺเฐ เสขสฺสาติ เอตฺถ เกนฏฺเฐน เสโข? เสกฺขธมฺมปฏิลาภโต เสโขฯ วุตฺตญฺเหตํ –

‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, เสโข โหตีติ? อิธ, ภิกฺขุ, เสขาย สมฺมาทิฏฺฐิยา สมนฺนาคโต โหติ…เป.… เสเขน สมฺมาสมาธินา สมนฺนาคโต โหติฯ เอตฺตาวตา โข, ภิกฺขุ, เสโข โหตี’’ติ (สํ. นิ. 5.13)ฯ

อปิจ สิกฺขตีติ เสโขฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘สิกฺขตีติ โข, ภิกฺขุ, ตสฺมา เสโขติ วุจฺจติฯ กิญฺจ สิกฺขติ? อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปญฺญมฺปิ สิกฺขติฯ สิกฺขตีติ โข, ภิกฺขุ, ตสฺมา เสโขติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. 3.86)ฯ

โยปิ กลฺยาณปุถุชฺชโน อนุโลมปฺปฏิปทาย ปริปูรการี สีลสมฺปนฺโน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเน มตฺตญฺญู ชาคริยานุโยคมนุยุตฺโต ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ – ‘‘อชฺช วา สฺเว วา อญฺญตรํ สามญฺญผลํ อธิคมิสฺสามี’’ติ, โสปิ วุจฺจติ สิกฺขตีติ เสโขติฯ อิมสฺมิํ อตฺเถ น ปฏิวิชฺฌนฺโตว เสโข อธิปฺเปโต, อถ โข กลฺยาณปุถุชฺชโนปิฯ อปฺปตฺตํ มานสํ เอเตนาติ อปฺปตฺตมานโสมานสนฺติ ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส’’ติ (สํ. นิ. 1.151; มหาว. 33) เอตฺถ ราโค มานสนฺติ วุตฺโตฯ ‘‘จิตฺตํ มโน มานส’’นฺติ (ธ. ส. 63, 65) เอตฺถ จิตฺตํฯ ‘‘อปฺปตฺตมานโส เสโข, กาลํ กยิรา ชเน สุตา’’ติ (สํ. นิ. 1.159) เอตฺถ อรหตฺตํฯ อิธาปิ อรหตฺตเมว อธิปฺเปตํฯ เตน อปฺปตฺตอรหตฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติฯ

อนุตฺตรนฺติ เสฏฺฐํ, อสทิสนฺติ อตฺโถฯ จตูหิ โยเคหิ เขมํ อนุปทฺทุตนฺติ โยคกฺเขมํ, อรหตฺตเมว อธิปฺเปตํฯ ปตฺถยมานสฺสาติ ทฺเว ปตฺถนา ตณฺหาปตฺถนา, กุสลจฺฉนฺทปตฺถนา จฯ ‘‘ปตฺถยมานสฺส หิ ชปฺปิตานิ, ปเวธิตํ วาปิ ปกปฺปิเตสู’’ติ (สุ. นิ. 908; มหานิ. 137) เอตฺถ ตณฺหาปตฺถนาฯ

‘‘ฉินฺนํ ปาปิมโต โสตํ, วิทฺธสฺตํ วินฬีกตํ;

ปาโมชฺชพหุลา โหถ, เขมํ ปตฺเถถ ภิกฺขโว’’ติฯ (ม. นิ. 1.352);

เอตฺถ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺทปตฺถนา, อยเมว อิธาธิปฺเปตาฯ เตน ปตฺถยมานสฺสาติ ตํ โยคกฺเขมํ คนฺตุกามสฺส ตนฺนินฺนสฺส ตปฺโปณสฺส ตปฺปพฺภารสฺสาติ อตฺโถฯ วิหรโตติ เอกํ อิริยาปถทุกฺขํ อญฺเญน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปริปตนฺตํ อตฺตภาวํ หรโตฯ

อถ วา ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ อธิมุจฺจนฺโต สทฺธาย วิหรตี’’ติอาทินา นิทฺเทสนเยน เจตฺถ อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพฯ อชฺฌตฺติกนฺติ นิยกชฺฌตฺตสงฺขาเต อชฺฌตฺเต ภวํ อชฺฌตฺติกํฯ องฺคนฺติ การณํฯ อิติ กริตฺวาติ เอวํ กตฺวาฯ น อญฺญํ เอกงฺคมฺปิ สมนุปสฺสามีติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ อตฺตโน สนฺตาเน สมุฏฺฐิตํ การณนฺติ กตฺวา อญฺญํ เอกการณมฺปิ น สมนุปสฺสามิ ยํ เอวํ พหูปการํ, ยถยิทํ โยนิโส มนสิกาโรติ อุปายมนสิกาโร, ปถมนสิกาโร, อนิจฺจาทีสุ อนิจฺจาทินเยเนว มนสิกาโร, อนิจฺจานุโลมิเกน วา จิตฺตสฺส อาวฏฺฏนา อนฺวาวฏฺฏนา อาโภโค สมนฺนาหาโร มนสิกาโรฯ อยํ โยนิโส มนสิกาโรฯ

อิทานิ โยนิโส มนสิการสฺส อานุภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘โยนิโส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มนสิ กโรนฺโต อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวตี’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ โยนิโส มนสิ กโรนฺโตติ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อยํ ทุกฺขสมุทโย อริยสจฺจํ, อยํ ทุกฺขนิโรโธ อริยสจฺจํ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจ’’นฺติ จตูสุ อริยสจฺเจสุ โยนิโส มนสิการํ ปวตฺเตนฺโตฯ

ตตฺรายํ อตฺถวิภาวนา – ยทิปิ อิทํ สุตฺตํ อวิเสเสน เสกฺขปุคฺคลวเสน อาคตํ, จตุมคฺคสาธารณวเสน ปน สงฺเขเปเนว กมฺมฏฺฐานํ กถยิสฺสามฯ โย จตุสจฺจกมฺมฏฺฐานิโก โยคาวจโร ‘‘ตณฺหาวชฺชา เตภูมกา ขนฺธา ทุกฺขํ, ตณฺหา สมุทโย, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรโธ, นิโรธสมฺปาปโก มคฺโค’’ติ เอวํ ปุพฺเพ เอว อาจริยสนฺติเก อุคฺคหิตจตุสจฺจกมฺมฏฺฐาโนฯ โส อปเรน สมเยน วิปสฺสนามคฺคํ สมารุฬฺโห สมาโน เตภูมเก ขนฺเธ ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ โยนิโส มนสิ กโรติ, อุปาเยน ปเถน สมนฺนาหรติ เจว วิปสฺสติ จฯ วิปสฺสนา หิ อิธ มนสิการสีเสน วุตฺตาฯ ยา ปนายํ ตสฺส ทุกฺขสฺส สมุฏฺฐาปิกา ปุริมภวิกา ตณฺหา, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ โยนิโส มนสิ กโรติฯ ยสฺมา ปน อิทํ ทุกฺขํ, อยญฺจ สมุทโย อิทํ ฐานํ ปตฺวา นิรุชฺฌนฺติ น ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ยทิทํ นิพฺพานํ นาม , อยํ ทุกฺขนิโรโธติ โยนิโส มนสิ กโรติฯ นิโรธสมฺปาปกํ อฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ โยนิโส มนสิ กโรติ, อุปาเยน ปเถน สมนฺนาหรติ เจว วิปสฺสติ จฯ

ตตฺรายํ อุปาโย – อภินิเวโส นาม ขนฺเธ โหติ, น วิวฏฺเฏ, ตสฺมา อยมตฺโถ – ‘‘อิมสฺมิํ กาเย ปถวีธาตุ, อาโปธาตู’’ติอาทินา (ที. นิ. 2.378) นเยน จตฺตาริ มหาภูตานิ ตทนุสาเรน อุปาทารูปานิ จ ปริคฺคเหตฺวา ‘‘อยํ รูปกฺขนฺโธ’’ติ ววตฺถเปติฯ ตํ ววตฺถาปยโต อุปฺปนฺเน ตทารมฺมเณ จิตฺตเจตสิกธมฺเม ‘‘อิเม จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธา’’ติ ววตฺถเปติฯ ตโต ‘‘อิเม ปญฺจกฺขนฺธา ทุกฺข’’นฺติ ววตฺถเปติฯ เต ปน สงฺเขปโต นามญฺจ รูปญฺจาติ ทฺเว ภาคา โหนฺติฯ อิทญฺจ นามรูปํ สเหตุ สปฺปจฺจยํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส อยํ อวิชฺชาภวตณฺหาทิโก เหตุ, อยํ อาหาราทิโก ปจฺจโยติ เหตุปฺปจฺจเย ววตฺถเปติฯ โส เตสํ ปจฺจยานญฺจ ปจฺจยุปฺปนฺนานญฺจ ยาถาวสรสลกฺขณํ ววตฺถเปตฺวา ‘‘อิเม ธมฺมา อหุตฺวา ภวนฺติ, หุตฺวา นิรุชฺฌนฺติ, ตสฺมา อนิจฺจา’’ติ อนิจฺจลกฺขณํ อาโรเปติ, ‘‘อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขา’’ติ ทุกฺขลกฺขณํ อาโรเปติ, ‘‘อวสวตฺตนโต อนตฺตา’’ติ อนตฺตลกฺขณํ อาโรเปติฯ

เอวํ ติลกฺขณานิ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนฺโต อุทยพฺพยญาณุปฺปตฺติยา อุปฺปนฺเน โอภาสาทิเก วิปสฺสนุปกฺกิเลเส ‘อมคฺโค’ติ อุทยพฺพยญาณเมว ‘‘อริยมคฺคสฺส อุปายภูโต ปุพฺพภาคมคฺโค’’ติ มคฺคามคฺคํ ววตฺถเปตฺวา ปุน อุทยพฺพยญาณํ ปฏิปาฏิยา ภงฺคญาณาทีนิ จ อุปฺปาเทนฺโต โสตาปตฺติมคฺคาทโย ปาปุณาติฯ ตสฺมิํ ขเณ จตฺตาริ สจฺจานิ เอกปฺปฏิเวเธเนว ปฏิวิชฺฌติ, เอกาภิสมเยน อภิสเมติฯ ตตฺถ ทุกฺขํ ปริญฺญาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌนฺโต, สมุทยํ ปหานปฺปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌนฺโต สพฺพํ อกุสลํ ปชหติ, นิโรธํ สจฺฉิกิริยาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌนฺโต มคฺคํ ภาวนาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌนฺโต สพฺพํ กุสลํ ภาเวติฯ อริยมคฺโค หิ นิปฺปริยายโต กุจฺฉิตสลนาทิอตฺเถน กุสโล, ตสฺมิญฺจ ภาวิเต สพฺเพปิ กุสลา อนวชฺชโพธิปกฺขิยธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺตีติฯ เอวํ โยนิโส มนสิ กโรนฺโต อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติฯ ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ โยนิโส มนสิ กโรติ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติอาทิ (ม. นิ. 1.21)ฯ อปรมฺปิ วุตฺตํ ‘‘โยนิโส มนสิการสมฺปนฺนสฺเสตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ – อริยํ อฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวสฺสติ, อริยํ อฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกริสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. 5.55)ฯ

โยนิโส มนสิกาโรติ คาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – สิกฺขติ, สิกฺขาปทานิ ตสฺส อตฺถิ, สิกฺขนสีโลติ วา เสโขฯ สํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ภิกฺขุฯ ตสฺส เสขสฺส ภิกฺขุโน อุตฺตมตฺถสฺส อรหตฺตสฺส ปตฺติยา อธิคมาย ยถา โยนิโส มนสิกาโร, เอวํ พหุกาโร พหูปกาโร อญฺโญ โกจิ ธมฺโม นตฺถิฯ กสฺมา? ยสฺมา โยนิโส อุปาเยน มนสิการํ ปุรกฺขตฺวา ปทหํ จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวเสน ปทหนฺโต, ขยํ ทุกฺขสฺส ปาปุเณ สํกิเลสวฏฺฏทุกฺขสฺส ปริกฺขยํ ปริโยสานํ นิพฺพานํ ปาปุเณ อธิคจฺเฉยฺย, ตสฺมา โยนิโส มนสิกาโร พหุกาโรติฯ

ฉฏฺฐสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

7. ทุติยเสขสุตฺตวณฺณนา

[17] สตฺตเม พาหิรนฺติ อชฺฌตฺตสนฺตานโต พหิ ภวํฯ กลฺยาณมิตฺตตาติ ยสฺส สีลาทิคุณสมฺปนฺโน อฆสฺส ฆาตา , หิตสฺส วิธาตา สพฺพากาเรน อุปการโก มิตฺโต โหติ, โส ปุคฺคโล กลฺยาณมิตฺโต, ตสฺส ภาโว กลฺยาณมิตฺตตาฯ ตตฺรายํ กลฺยาณมิตฺโต ปกติยา สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ สีลสมฺปนฺโน สุตสมฺปนฺโน จาคสมฺปนฺโน วีริยสมฺปนฺโน สติสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปญฺญาสมฺปนฺโนฯ ตตฺถ สทฺธาสมฺปตฺติยา สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธิํ, เตน สมฺมาสมฺโพธิเหตุภูตํ สตฺเตสุ หิตสุเขสิตํ น ปริจฺจชติ, สีลสมฺปตฺติยา สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย โหติ ครุ จ ภาวนีโย โจทโก ปาปครหี วตฺตา วจนกฺขโม, สุตสมฺปตฺติยา ขนฺธายตนสจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิกานํ คมฺภีรานํ กถานํ กตฺตา โหติ, จาคสมฺปตฺติยา อปฺปิจฺโฉ โหติ สนฺตุฏฺโฐ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโฐ, วีริยสมฺปตฺติยา อตฺตโน ปเรสญฺจ หิตปฺปฏิปตฺติยํ อารทฺธวีริโย โหติ, สติสมฺปตฺติยา อุปฏฺฐิตสฺสติ โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา, สมาธิสมฺปตฺติยา อวิกฺขิตฺโต โหติ สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต, ปญฺญาสมฺปตฺติยา อวิปรีตํ ปชานาติฯ โส สติยา กุสลากุสลานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสนฺโต ปญฺญาย สตฺตานํ หิตสุขํ ยถาภูตํ ชานิตฺวา สมาธินา ตตฺถ อพฺยคฺคจิตฺโต หุตฺวา วีริเยน สตฺเต อหิตโต นิเสเธตฺวา เอกนฺตหิเต นิโยเชติฯ เตเนวาห –

‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;

คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา, โน จาฏฺฐาเน นิโยชโก’’ติฯ (เนตฺติ. 113);

กลฺยาณมิตฺโต , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวตีติ กลฺยาณมิตฺโต ปุคฺคโล กลฺยาณมิตฺตํ นิสฺสาย กมฺมสฺสกตาญาณํ อุปฺปาเทติ, อุปฺปนฺนํ สทฺธํ ผาติํ กโรติ, สทฺธาชาโต อุปสงฺกมติ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุณาติฯ ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ, เตน สทฺธาปฏิลาเภน ฆราวาสํ ปหาย ปพฺพชฺชํ อนุติฏฺฐติ, จตุปาริสุทฺธิสีลํ สมฺปาเทติ, ยถาพลํ ธุตธมฺเม สมาทาย วตฺตติ, ทสกถาวตฺถุลาภี โหติ, อารทฺธวีริโย วิหรติ อุปฏฺฐิตสฺสติ สมฺปชาโน ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺโต, นจิรสฺเสว วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคาธิคเมน สพฺพํ อกุสลํ สมุจฺฉินฺทติ, สพฺพญฺจ กุสลํ ภาวนาปาริปูริํ คเมนฺโต วฑฺเฒติฯ วุตฺตญฺเหตํ –

‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ, เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส ‘ยํ สีลวา ภวิสฺสติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหริสฺสติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ, ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขิสฺสติ, สิกฺขาปเทสุ’ฯ

‘‘กลฺยาณมิตฺตสฺเสตํ…เป.… กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส ‘ยํ ยายํ กถา อภิสลฺเลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา เอกนฺตนิพฺพิทาย…เป.… นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา, สนฺตุฏฺฐิกถา, ปวิเวกกถา, อสํสคฺคกถา, วีริยารมฺภกถา, สีลกถา, สมาธิกถา…เป.… วิมุตฺติญาณทสฺสนกถาฯ เอวรูปาย กถาย นิกามลาภี ภวิสฺสติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี’ฯ