เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส [ปารายนวรรค] 1. วัตถุคาถา
[22] ลำดับนั้น พราหมณ์พาวรีได้เรียกพราหมณ์ทั้งหลาย
ผู้เป็นศิษย์ ซึ่งเรียนจบมนตร์มากล่าวว่า มาณพทั้งหลาย
มานี่เถิด เราจักบอก ขอพวกเธอจงฟังคำของเรา
[23] (พราหมณ์พาวรีกล่าวต่อไปว่า)
ความที่พระผู้มีพระภาคพระองค์ใดปรากฏเนือง ๆ
ในโลกนั่นหาได้ยาก วันนี้ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
เสด็จอุบัติในโลกแล้ว ปรากฏพระนามว่า พระสัมพุทธเจ้า
พวกเธอจงรีบไปกรุงสาวัตถี เข้าเฝ้าพระสัมพุทธเจ้า
ผู้สูงสุดกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
[24] (มาณพทั้งหลายถามว่า)
ข้าแต่พราหมณ์ ถ้าพวกข้าพเจ้าพบแล้ว
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นพระพุทธเจ้า
ขอท่านจงบอกวิธีที่จะรู้จักพระองค์
แก่พวกข้าพเจ้าผู้ไม่รู้ด้วยเถิด
[25] (พราหมณ์พาวรีกล่าวว่า)
ก็มหาปุริสลักษณะ 32 ประการ
อันมาแล้วในมนตร์ทั้งหลาย
ท่านกล่าวไว้แจ่มแจ้งครบถ้วนโดยลำดับ
[26] บุคคลใดมีมหาปุริสลักษณะเหล่านั้นอยู่ในตัว
บุคคลนั้นมีคติเป็น 2 อย่างเท่านั้น
มิได้มีคติเป็นที่ 3 เลย
[27] คือ ถ้าบุคคลนั้นอยู่ครองเรือน
จะพึงครอบครองแผ่นดินนี้
ย่อมปกครองโดยธรรม
โดยไม่ต้องใช้อาญา ไม่ต้องใช้ศัสตรา

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 30 หน้า :5 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส [ปารายนวรรค] 1. วัตถุคาถา
[28] แต่ถ้าบุคคลนั้น ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต
จะเป็นพระอรหันตสัมพุทธเจ้าผู้ยอดเยี่ยม
มีกิเลสดุจเครื่องปิดบัง1อันเปิดแล้ว
[29] พวกเธอจงทูลถามด้วยใจเท่านั้นถึงชาติ
โคตร ลักษณะ มนตร์ ศิษย์คนอื่น ๆ
ศีรษะและธรรมที่ทำให้ศีรษะตกไป
[30] ถ้าบุคคลนั้นเป็นพระพุทธเจ้า
ผู้มีปกติเห็นธรรมหาเครื่องกางกั้นมิได้
เมื่อพวกเธอถามปัญหาด้วยใจแล้ว
ก็จักทรงวิสัชนาด้วยพระวาจา
[31] ครั้นฟังคำของพราหมณ์พาวรีแล้ว
พราหมณ์ 16 คนผู้เป็นศิษย์ คือ (1) อชิตะ
(2) ติสสเมตเตยยะ (3) ปุณณกะ (4) เมตตคู
[32] (5) โธตกะ (6) อุปสีวะ (7) นันทะ (8) เหมกะ
(9) โตเทยยะ (10) กัปปะ (11) ชตุกัณณิ ผู้เป็นบัณฑิต
[33] (12) ภัทราวุธ (13) อุทัย (14) โปสาละ
(15) โมฆราช ผู้มีปัญญา (16) ปิงคิยะ ผู้เป็นมหาฤๅษี
[34] พราหมณ์ผู้เป็นศิษย์ 16 คนนั้น
แต่ละคนเป็นเจ้าหมู่ เจ้าคณะ มีชื่อปรากฏแก่ชาวโลกทั่วไป
เป็นผู้บำเพ็ญฌาน ยินดีในฌาน
เป็นผู้มีปัญญาปราดเปรื่อง
เคยอบรมวาสนาแต่ชาติปางก่อนทั้งนั้น

เชิงอรรถ :
1 กิเลสดุจเครื่องปิดบัง มี 5 อย่าง ได้แก่ ตัณหา ทิฏฐิ กิเลส ทุจริต อวิชชา พระผู้มีพระภาค
ทรงเผากิเลสเหล่านี้ด้วยไฟคือญาณ (ดูรายละเอียดในข้อ 118/385)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 30 หน้า :6 }