เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส [ทุติยวรรค] 8. ขัคควิสาณสุตตนิทเทส
ตายแล้ว ย่อมไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก แม้ข้อนี้ก็ชื่อว่าเป็นโทษแห่งกาม
ทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ในสัมปรายภพ มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็น
เหตุเกิด เกิดเพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายนั่นแล1
คำว่า เราเห็นโทษในกามคุณแล้ว อธิบายว่า เห็น คือ แลเห็น เทียบเคียง
พิจารณาทำให้กระจ่าง ทำให้แจ่มแจ้งซึ่งโทษในกามคุณ รวมความว่า เราเห็นโทษ
ในกามคุณแล้ว จึงประพฤติอยู่ผู้เดียว เหมือนนอแรด ด้วยเหตุนั้น พระปัจเจก-
สัมพุทธเจ้านั้นจึงกล่าวว่า
เพราะกามทั้งหลายสวยงาม
มีรสอร่อย น่ารื่นเริงใจ
ยั่วยวนจิตด้วยอารมณ์หลายรูปแบบ
เราเห็นโทษในกามคุณแล้ว
จึงประพฤติอยู่ผู้เดียว เหมือนนอแรด
[137] (พระปัจเจกสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า)
คำว่า กาม นี้ เป็นอันตราย เป็นดุจฝี
เป็นอุปัทวะ เป็นโรค เป็นดุจลูกศร และเป็นภัย
เราเห็นภัยนี้ในกามคุณแล้ว
จึงประพฤติอยู่ผู้เดียว เหมือนนอแรด (7)
คำว่า คำว่า กาม นี้ เป็นอันตราย เป็นดุจฝี เป็นอุปัทวะ เป็นโรค เป็นดุจ
ลูกศร และเป็นภัย อธิบายว่า สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไว้ว่า “ภิกษุ
ทั้งหลาย คำว่า ภัย เป็นชื่อของกามทั้งหลาย คำว่า ทุกข์ เป็นชื่อของกาม
ทั้งหลาย คำว่า โรค เป็นชื่อของกามทั้งหลาย คำว่า ฝี เป็นชื่อของกามทั้งหลาย
คำว่า ลูกศร เป็นชื่อของกามทั้งหลาย คำว่า ความข้อง เป็นชื่อของกามทั้งหลาย
คำว่า เปือกตม เป็นชื่อของกามทั้งหลาย คำว่า การอยู่ในครรภ์ นี้ เป็นชื่อของ
กามทั้งหลาย

เชิงอรรถ :
1 ม.มู. 12/167-169/129-131

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 30 หน้า :445 }