เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส [ปารายนวรรค] 7. ปารายนานุคีติคาถานิทเทส
คำว่า โมหะ อธิบายว่า ความไม่รู้ในทุกข์ ฯลฯ อวิชชาเป็นดุจลิ่มสลัก
อกุศลมูลคือโมหะ นี้ท่านเรียกว่า โมหะ
มลทินและโมหะ พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า ทรงละได้เด็ดขาดแล้ว ตัดราก
ถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้ว เหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี
เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้ ฉะนั้น พระพุทธเจ้า จึงชื่อว่าผู้ทรงละมลทินและโมหะได้แล้ว
รวมความว่า ผู้ทรงละมลทินและโมหะได้แล้ว
คำว่า ทรงละความถือตัวและความลบหลู่ได้ อธิบายว่า

ว่าด้วยความถือตัวมีนัยต่าง ๆ
คำว่า ความถือตัว อธิบายว่า ความถือตัวนัยเดียว คือ ความที่จิตใฝ่สูง
ความถือตัว 2 นัย คือ
1. การยกตน 2. การข่มผู้อื่น
ความถือตัว 3 นัย คือ
1. ความถือตัวว่า เราเลิศกว่าเขา 2. ความถือตัวว่า เราเสมอเขา
3. ความถือตัวว่า เราด้อยกว่าเขา
ความถือตัว 4 นัย คือ
1. เกิดความถือตัวเพราะลาภ
2. เกิดความถือตัวเพราะยศ
3. เกิดความถือตัวเพราะความสรรเสริญ
4. เกิดความถือตัวเพราะความสุข
ความถือตัว 5 นัย คือ
1. เกิดความถือตัวว่าเราได้รูปที่ถูกใจ
2. ความถือตัวว่าเราได้เสียงที่ถูกใจ
3. ความถือตัวว่าเราได้กลิ่นที่ถูกใจ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 30 หน้า :351 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส [ปารายนวรรค] 7. ปารายนานุคีติคาถานิทเทส
4. ความถือตัวว่าเราได้รสที่ถูกใจ
5. ความถือตัวว่าเราได้โผฏฐัพพะที่ถูกใจ
ความถือตัว 6 นัย คือ
1. เกิดความถือตัวเพราะมีตาสมบูรณ์
2. เกิดความถือตัวเพราะมีหูสมบูรณ์
3. เกิดความถือตัวเพราะมีจมูกสมบูรณ์
4. เกิดความถือตัวเพราะมีลิ้นสมบูรณ์
5. เกิดความถือตัวเพราะมีกายสมบูรณ์
6. เกิดความถือตัวเพราะมีใจสมบูรณ์
ความถือตัว 7 นัย คือ
1. ความถือตัว
2. ความดูหมิ่น
3. ความดูหมิ่นด้วยอำนาจความถือตัว
4. ความถือตัวว่าด้อยกว่าเขา
5. ความถือตัวว่าต่ำกว่าเขา
6. ความถือเราถือเขา
7. ความถือตัวผิด ๆ
ความถือตัว 8 นัย คือ
1. เกิดความถือตัวเพราะได้ลาภ
2. เกิดความถือตัวว่าตกต่ำเพราะเสื่อมลาภ
3. เกิดความถือตัวเพราะมียศ
4. เกิดความถือตัวว่าตกต่ำเพราะเสื่อมยศ
5. เกิดความถือตัวเพราะความสรรเสริญ
6. เกิดความถือตัวว่าตกต่ำเพราะถูกนินทา
7. เกิดความถือตัวเพราะความสุข
8. เกิดความถือตัวว่าตกต่ำเพราะความทุกข์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 30 หน้า :352 }