เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย มหานิทเทส [อัฎฐกวรรค] 15. อัตตทัณฑสุตตนิทเทส
นุ่งห่มผ้าผลไม้กรอง นุ่งห่มผ้ากัมพลผมมนุษย์ นุ่งห่มผ้ากัมพลขนปีกนกเค้า ถอนผม
และหนวด คือถือการถอนผมและหนวด ยืนอย่างเดียว ไม่ยอมนั่ง เดินกระหย่ง คือ
ถือการเดินกระหย่ง นอนบนหนาม สำเร็จการนอนบนหนาม นอนบนแผ่น
กระดาน นอนบนเนินดิน นอนตะแคงข้างเดียว เอาฝุ่นคลุกตัว อยู่กลางแจ้ง
นั่งบนอาสนะตามที่ปูไว้ บริโภคคูถ คือถือการบริโภคคูถ ไม่ดื่มน้ำเย็น คือถือการ
ไม่ดื่มน้ำเย็น อาบน้ำวันละ 3 ครั้ง คือถือการลงอาบน้ำ ถือการทำให้กาย
เดือดร้อน เร่าร้อน หลากหลายชนิด เห็นปานนี้ ด้วยประการอย่างนี้บ้าง สัตว์ผู้ถูก
ลูกศรคือทิฏฐิปักติด คือ เสียบแทง ถูกต้อง เสียบ ติดแน่น คาค้างอยู่ ก็แล่นไป
วิ่งพล่าน คือ ลนลาน ท่องเที่ยวไป อย่างนี้บ้าง
สัตว์ผู้ถูกลูกศรคือโสกะปักติด คือ เสียบแทง ถูกต้อง เสียบ ติดแน่น
คาค้างอยู่ ก็ย่อมโศก เหนื่อยหน่าย คร่ำครวญ ตีอกพร่ำเพ้อ ถึงความหลงใหล
สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า "พราหมณ์ เรื่องเคยมีมาแล้ว ในเมือง
สาวัตถีนี้เอง มารดาของหญิงบางคนตาย หญิงนั้น เพราะมารดาตาย จึงเป็นบ้า
มีใจฟุ้งซ่าน จากถนนนี้เข้าไปสู่ถนนโน้น จากตรอกนี้เข้าไปสู่ตรอกโน้น พูดอย่างนี้ว่า
'พวกท่านเห็นมารดาของฉันบ้างไหม พวกท่านเห็นมารดาของฉันบ้างไหม'
พราหมณ์ เรื่องเคยมีมาแล้ว ในเมืองสาวัตถีนี้เอง บิดาของหญิงบางคนตาย
แล้ว... พี่ชายน้องชายตายแล้ว... พี่สาวน้องสาวตายแล้ว... บุตรตายแล้ว... ธิดาตาย
แล้ว... สามีตายแล้ว หญิงนั้น เพราะสามีนั้นตายแล้ว จึงเป็นบ้า มีใจฟุ้งซ่าน
จากถนนนี้เข้าไปสู่ถนนโน้น จากตรอกนี้เข้าไปสู่ตรอกโน้น พูดอย่างนี้ว่า 'พวกท่าน
เห็นสามีของฉันบ้างไหม พวกท่านเห็นสามีของฉันบ้างไหม'
พราหมณ์ เรื่องเคยมีมาแล้ว ในเมืองสาวัตถีนี้เอง มารดาของชายบางคน
ตายแล้ว ชายผู้นั้น เพราะมารดานั้นตายแล้ว จึงเป็นบ้า มีใจฟุ้งซ่าน จากถนนนี้
เข้าไปสู่ถนนโน้น จากตรอกนี้เข้าไปสู่ตรอกโน้น พูดอย่างนี้ว่า 'พวกท่านเห็นมารดา
ของฉันบ้างไหม พวกท่านเห็นมารดาของฉันบ้างไหม'
พราหมณ์ เรื่องเคยมีมาแล้ว ในเมืองสาวัตถีนี้เอง บิดาของชายบางคน
ตายแล้ว... พี่ชายน้องชายตายแล้ว... พี่สาวน้องสาวตายแล้ว... บุตรตายแล้ว...
ธิดาตายแล้ว... ภรรยาตายแล้ว... ชายผู้นั้น เพราะภรรยานั้นตายแล้ว จึงเป็นบ้า
มีใจฟุ้งซ่าน จากถนนนี้เข้าไปสู่ถนนโน้น จากตรอกนี้เข้าไปสู่ตรอกโน้น พูดอย่างนี้ว่า
'พวกท่านเห็นภรรยาของฉันบ้างไหม พวกท่านเห็นภรรยาของฉันบ้างไหม'

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 29 หน้า :497 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย มหานิทเทส [อัฎฐกวรรค] 15. อัตตทัณฑสุตตนิทเทส
พราหมณ์ เรื่องเคยมีมาแล้ว ในเมืองสาวัตถีนี้เอง หญิงบางคนไปสู่ตระกูล
ของญาติ พวกญาติของนางต้องการพรากสามีเสียแล้วยกหญิงนั้นให้แก่บุรุษอื่น แต่
นางไม่อยากได้บุรุษนั้น ลำดับนั้น หญิงนั้นจึงได้พูดกับสามีดังนี้ว่า 'นายจ๋า พวก
ญาติเหล่านี้ ต้องการจะพรากฉันจากท่านแล้วยกให้แก่ชายอื่น เราทั้งสองจักตาย
ด้วยกัน' ทันใดนั้น ชายผู้นั้นจึงฟันหญิงนั้นขาดเป็น 2 ท่อนแล้วฆ่าตนเองด้วย
หวังว่า เราทั้ง 2 ละ (โลกนี้) แล้วจักไปอยู่ร่วมกัน"1 สัตว์ผู้ถูกลูกศรคือโสกะปักติด
คือ เสียบแทง ถูกต้อง เสียบ ติดแน่น คาค้างอยู่ ก็แล่นไป วิ่งพล่าน คือ ลนลาน
ท่องเที่ยวไป อย่างนี้บ้าง
สัตว์ผู้ถูกลูกศรคือความสงสัยปักติด คือ เสียบแทง ถูกต้อง เสียบ ติดแน่น
คาค้างอยู่ ก็แล่นไปสู่ความสงสัย แล่นไปสู่ความแคลงใจ สองจิตสองใจว่า
"ในอดีตกาลยาวนานเราได้มีแล้ว หรือมิได้มีแล้วหนอ เราได้เป็นอะไรมาหนอ เราได้
เป็นอย่างไรมาหนอ เราได้เป็นอะไรแล้วมาเป็นอะไรหนอ ในอนาคตกาลยาวนาน
เราจักมีหรือจักไม่มีหนอ เราจักเป็นอะไรหนอ จักเป็นอย่างไรหนอ จักเป็นอะไรแล้ว
ไปเป็นอะไรหนอ หรือในปัจจุบัน ในบัดนี้ ก็มีความสงสัยอยู่ภายในว่า 'เราเป็นอยู่
หรือไม่หนอ เราเป็นอะไรหนอ เราเป็นอย่างไรหนอ สัตว์นี้มาจากไหนหนอ เขาจักไป
ไหนกันหนอ" สัตว์ผู้ถูกลูกศรคือความสงสัยปักติด คือ เสียบแทง ถูกต้อง เสียบ
ติดแน่น คาค้างอยู่ ก็แล่นไป วิ่งพล่าน คือ ลนลาน ท่องเที่ยวไป อย่างนี้บ้าง
สัตว์ปรุงแต่งลูกศรเหล่านั้นให้เกิดขึ้น เมื่อปรุงแต่งลูกศรเหล่านั้นให้เกิดขึ้น
ก็วิ่งพล่านไปทางทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ ด้วยอำนาจการปรุง
แต่งลูกศรให้เกิดขึ้น การปรุงแต่งลูกศรเหล่านั้นยังละไม่ได้ เพราะยังละการปรุงแต่ง
ลูกศรไม่ได้ จึงวิ่งพล่านไปในคติ นรก กำเนิดเดรัจฉาน เปตวิสัย มนุษยโลก
เทวโลก แล่นไป วิ่งพล่าน คือ ลนลาน ท่องเที่ยวไป จากคตินี้ไปสู่คติโน้น
จากการถือกำเนิดนี้ไปสู่การถือกำเนิดโน้น จากปฏิสนธินี้ไปสู่ปฏิสนธิโน้น จากภพนี้
ไปสู่ภพโน้น จากสงสาร2นี้ไปสู่สงสารโน้น จากวัฏฏะนี้ไปสู่วัฏฏะโน้น รวมความว่า
สัตว์ถูกลูกศรใดปักติดแล้ว วิ่งพล่านไปทุกทิศทาง

เชิงอรรถ :
1 ม.ม. 13/356/341-342
2 สงสาร หมายถึงการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโลก ภพที่เวียนเกิดเวียนตาย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 29 หน้า :498 }