เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย มหานิทเทส [อัฎฐกวรรค] 15. อัตตทัณฑสุตตนิทเทส
โลกในกำเนิดเดรัจฉาน... โลกในเปตวิสัย... มนุษยโลก... เทวโลก ไม่มีแก่นสาร
คือ ปราศจากแก่นสาร โดยสาระแห่งแก่นสารที่เป็นของเที่ยง โดยสาระแห่งแก่นสาร
ที่เป็นสุข โดยสาระแห่งแก่นสารที่เป็นตัวตน โดยความเป็นของเที่ยง โดยความเป็น
ของยั่งยืน โดยความเป็นของมั่นคง หรือโดยความเป็นของไม่แปรผันไปเป็นธรรมดา
รวมความว่า โลกทั้งหมดไม่มีแก่นสาร

ว่าด้วยสังขารไม่เที่ยง
คำว่า สังขารทั้งหลายทุกทิศก็หวั่นไหว อธิบายว่า สังขารทางทิศตะวันออก
คลอนแคลน หวั่นไหว คือ สะเทือน สะท้าน เพราะเป็นธรรมชาติไม่เที่ยง จึงถูกชาติ
ติดตาม ถูกชราแผ่คลุม ถูกพยาธิครอบงำ ถูกมรณะกำจัด ตั้งอยู่ในกองทุกข์ ไม่มีที่
ต้านทาน ไม่มีที่ปกป้อง ไม่มีที่พึ่ง เป็นสิ่งหาที่พึ่งไม่ได้
สังขารทางทิศตะวันตก... สังขารทางทิศเหนือ... สังขารทางทิศใต้... สังขาร
ทางทิศอาคเนย์... สังขารทางทิศพายัพ... สังขารทางทิศอีสาน... สังขารทางทิศหรดี...
สังขารทางทิศเบื้องต่ำ... สังขารทางทิศเบื้องสูง... สังขารในทั้ง 10 ทิศ ก็คลอนแคลน
หวั่นไหว คือ สะเทือน สะท้าน เพราะเป็นธรรมชาติไม่เที่ยง จึงถูกชาติติดตาม
ถูกชราแผ่คลุม ถูกพยาธิครอบงำ ถูกมรณะกำจัด ตั้งอยู่ในกองทุกข์ ไม่มีที่ต้านทาน
ไม่มีที่ปกป้อง ไม่มีที่พึ่ง เป็นสิ่งหาที่พึ่งไม่ได้ สมจริงดังภาษิตนี้ว่า
ถึงวิมานนี้ สว่างรุ่งเรือง อยู่ในทิศอุดรก็จริง
แต่บัณฑิตก็ยังมองเห็นโทษในรูป แล้วหวั่นไหวทุกเมื่อ
ฉะนั้น ผู้มีปัญญา จึงหายินดีในรูปไม่1
โลกถูกมรณะกำจัด ถูกชราห้อมล้อม ถูกลูกศร
คือตัณหาแทงติด คุเป็นควันเพราะความปรารถนาอยู่ทุกเมื่อ2
โลกทั้งปวงถูกไฟไหม้ ลุกโพลง โชติช่วง หวั่นไหวแล้ว3
รวมความว่า สังขารทั้งหลายทุกทิศก็หวั่นไหว

เชิงอรรถ :
1 สํ.ส. 15/177/178
2 สํ.ส. 15/66/45
3 ขุ.เถรี.(แปล) 26/200/587

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 29 หน้า :489 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย มหานิทเทส [อัฎฐกวรรค] 15. อัตตทัณฑสุตตนิทเทส
คำว่า เราเมื่อต้องการภพสำหรับตน อธิบายว่า เมื่อต้องการ คือ ยินดี
ปรารถนา มุ่งหมาย มุ่งหวังภพ คือ ที่ต้านทาน ที่ปกป้อง ที่พึ่ง ที่ดำเนินไป ที่ไปสู่
จุดหมายสำหรับตน รวมความว่า เราเมื่อต้องการภพสำหรับตน
คำว่า ก็มองไม่เห็นฐานะอะไรที่ไม่ถูกครอบงำ อธิบายว่า มองเห็นแต่ฐานะที่
ถูกครอบงำเท่านั้น ได้เห็นแต่ฐานะที่ถูกครอบงำ คือ ความเป็นหนุ่มสาวทั้งปวง
ถูกชราครอบงำ ความไม่มีโรคทั้งปวงถูกพยาธิครอบงำ ชีวิตทั้งปวงถูกมรณะครอบงำ
ลาภทั้งปวงถูกความเสื่อมลาภครอบงำ ยศทั้งปวงถูกความเสื่อมยศครอบงำ ความ
สรรเสริญทั้งปวงถูกการนินทาครอบงำ ความสุขทั้งปวงถูกความทุกข์ครอบงำ
ลาภ เสื่อมลาภ ยศ เสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ สุข
และทุกข์ ธรรมเหล่านี้ ในหมู่มนุษย์ล้วนไม่เที่ยง ไม่มั่นคง
มีความแปรผันไปเป็นธรรมดา1
รวมความว่า ก็มองไม่เห็นฐานะอะไรที่ไม่ถูกครอบงำ ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาค
จึงตรัสว่า
โลกทั้งหมดไม่มีแก่นสาร
สังขารทั้งหลายทุกทิศก็หวั่นไหว
เราเมื่อต้องการภพสำหรับตน
ก็มองไม่เห็นฐานะอะไรที่ไม่ถูกครอบงำ
[173] (พระผู้มีพระภาคตรัสว่า)
เพราะเห็นสัตว์มีที่สิ้นสุดและถูกสกัดกั้น
ความไม่ยินดีจึงมีแก่เรา
อนึ่ง เราได้เห็นลูกศรที่เห็นได้ยาก
อันอาศัยหทัยในสัตว์เหล่านี้แล้ว
คำว่า มีที่สิ้นสุด ในคำว่า สัตว์มีที่สิ้นสุดและถูกสกัดกั้น อธิบายว่า ชราทำให้
ความเป็นหนุ่มสาวทั้งปวงหมดสิ้นไป พยาธิทำให้ความไม่มีโรคทั้งปวงหมดสิ้นไป

เชิงอรรถ :
1 ขุ.ชา. 27/114/110

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 29 หน้า :490 }