เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย มหานิทเทส [อัฎฐกวรรค] 8. ปสูรสุตตนิทเทส
ท่านนำมาและยกขึ้นมาไม่ถูกต้อง ความข่มผู้อื่นท่านยังมิได้ทำ การทำลัทธิให้เลิศ
ลอยท่านยังทำไม่ดี ความพิเศษท่านยังมิได้ทำ การทำให้พิเศษยิ่งขึ้นท่านยังทำไม่ดี
ความผูกมัด ท่านยังมิได้ทำ ความผ่อนคลายท่านยังทำไม่ถูกต้อง ความตัดรอนท่าน
ยังมิได้ทำ การขนาบวาทะท่านทำไม่ถูกต้อง ท่านพูดไม่ถูกต้อง กล่าวไม่ถูกต้อง
เจรจาไม่ถูกต้อง เปล่งวาจาผิด กล่าวให้คลาดเคลื่อน พูดชั่ว"
คำว่า เป็นผู้เก้อเขิน ในเมื่อถูกค้านตกไป อธิบายว่า เมื่อถูกคัดค้านให้ตกไป
เป็นผู้เก้อเขิน คือ ถูกบีบคั้น ถูกทำให้ละอาย ถูกทำให้กระวนกระวาย ถึงความ
ทุกข์ใจ รวมความว่า เป็นผู้เก้อเขิน ในเมื่อถูกค้านตกไป
คำว่า เพราะคำนินทา ในคำว่า ย่อมโกรธเคือง เพราะคำนินทา แสวงหา
ข้อแก้ตัว อธิบายว่า เพราะคำนินทา คือ คำครหา คำไม่ชมเชย คำไม่สรรเสริญคุณ
ความดี
คำว่า ย่อมโกรธเคือง ได้แก่ ย่อมโกรธเคือง คือ แค้นเคือง ขุ่นเคือง ได้แก่
ทำความโกรธเคือง ความขัดเคือง และความไม่พอใจให้ปรากฏ รวมความว่า
ย่อมโกรธเคือง เพราะคำนินทา
คำว่า แสวงหาข้อแก้ตัว ได้แก่ แสวงหาข้อแก้ตัว คือ แสวงหาข้อผิด
แสวงหาข้อพลั้งผิด แสวงหาข้อผิดพลาด แสวงหาข้อพลั้งเผลอ แสวงหาช่องทาง
รวมความว่า ย่อมโกรธเคือง เพราะคำนินทา แสวงหาข้อแก้ตัว ด้วยเหตุนั้น
พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า
คนผู้ประกอบถ้อยคำ(เพื่อกล่าว)ในท่ามกลางบริษัท
เมื่ออยากได้ความสรรเสริญ ย่อมเป็นผู้ลังเลใจ
เป็นผู้เก้อเขิน ในเมื่อถูกค้านตกไป ย่อมโกรธเคือง
เพราะคำนินทา แสวงหาข้อแก้ตัว
[62] (พระผู้มีพระภาคตรัสว่า)
บริษัทผู้พิจารณาปัญหากล่าววาทะของเขาว่า เลว
ถูกคัดค้านตกไปแล้ว เขาเสื่อมวาทะไปแล้ว
ย่อมคร่ำครวญ เศร้าโศก ทอดถอนใจว่า เขานำ(หน้า) เราไปแล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 29 หน้า :200 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย มหานิทเทส [อัฎฐกวรรค] 8. ปสูรสุตตนิทเทส
ว่าด้วยถูกข่มด้วยวาทะแล้วเสียใจ
คำว่า กล่าววาทะของเขาว่า เลว อธิบายว่า ชุมชนผู้พิจารณาปัญหา
ได้กล่าวอย่างนี้ คือ พูด บอก แสดง ชี้แจงวาทะของเขาว่า เลว คือ ทราม ต่ำทราม
เสื่อมเสีย ไม่บริบูรณ์ อย่างนี้ รวมความว่า กล่าววาทะของเขาว่า เลว
คำว่า บริษัทผู้พิจารณาปัญหา ... ถูกคัดค้านตกไปแล้ว อธิบายว่า บริษัท
สมาชิกของบริษัท ผู้พิจารณาปัญหา เป็นผู้มีเหตุผล ย่อมคัดค้านให้ตกไป คือ
คัดค้านให้ตกไปโดยอรรถว่า "คำที่ท่านพูดไร้ความหมาย" คัดค้านให้ตกไปโดย
พยัญชนะว่า "สิ่งที่ท่านพูดแล้วไม่ถูกต้องโดยพยัญชนะ" คัดค้านให้ตกไปทั้งโดย
อรรถและพยัญชนะว่า "สิ่งที่ท่านพูดแล้วไม่ถูกต้องทั้งโดยอรรถและพยัญชนะ"
คัดค้านให้ตกไปว่า "อรรถที่ท่านนำมาไม่ถูกต้อง พยัญชนะที่ท่านยกขึ้นมาไม่ถูกต้อง
ทั้งอรรถและพยัญชนะที่ท่านนำมาและยกขึ้นมาไม่ถูกต้อง ความข่มผู้อื่นท่านยัง
มิได้ทำ การทำลัทธิให้เลิศลอยท่านยังทำไม่ดี ความพิเศษท่านยังมิได้ทำ การทำให้
พิเศษยิ่งขึ้นท่านยังทำไม่ดี ความผูกมัดท่านยังมิได้ทำ ความผ่อนคลายท่านทำไว้
ไม่ถูกต้อง ความตัดรอนท่านยังมิได้ทำ การขนาบวาทะท่านทำไม่ถูกต้อง ท่านพูด
ไม่ถูกต้อง กล่าวไม่ถูกต้อง เจรจาไม่ถูกต้อง เปล่งวาจาผิด กล่าวให้คลาดเคลื่อน
พูดชั่ว" รวมความว่า บริษัทผู้พิจารณาปัญหา ... ถูกคัดค้านตกไปแล้ว
คำว่า ย่อมคร่ำครวญ ในคำว่า เขาเสื่อมวาทะไปแล้ว ย่อมคร่ำครวญ
เศร้าโศก อธิบายว่า การพูดพล่าม การพูดเพ้อ การพูดเพ้อเจ้อ ความพร่ำเพ้อ
กิริยาที่พร่ำเพ้อ ภาวะที่พร่ำเพ้อเห็นปานนี้ว่า เรานึก คิด พิจารณา กำหนดไว้เป็น
อย่างอื่น เขามีพวกมาก มีบริษัทมาก มีบริวารมาก และบริษัทนี้เป็นพวกแต่
หาพร้อมเพรียงกันไม่ ขอให้มีการพูดจาปราศรัยเพื่อให้บริษัทพร้อมเพรียงกันเถิด
เราจักทำลายเขาอีก รวมความว่า ย่อมคร่ำครวญ
คำว่า เศร้าโศก ได้แก่ เศร้าโศก คือ ลำบากใจ คร่ำครวญ ตีอกพร่ำเพ้อ
ถึงความหลงใหลว่า "เขามีชัยชนะ เราปราชัย เขาได้ลาภ เราไม่ได้ลาภ เขามียศ
เราไม่มียศ เขาได้ความสรรเสริญ เราได้แต่การนินทา เขามีสุข เรามีทุกข์ เขา
ได้รับสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ยำเกรง ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 29 หน้า :201 }