พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย มหานิทเทส [อัฎฐกวรรค] 1. กามสุตตนิทเทส
3. ชื่อว่ามีสติ เพราะเป็นผู้คล่องแคล่วในสติ
4. ชื่อว่ามีสติ เพราะเป็นผู้ไม่หวนกลับจากสติ
มีสติด้วยเหตุอีก 4 อย่าง คือ
1. ชื่อว่ามีสติ เพราะมีอยู่ตามปกติ
2. ชื่อว่ามีสติ เพราะเป็นผู้สงบ
3. ชื่อว่ามีสติ เพราะเป็นผู้ระงับ
4. ชื่อว่ามีสติ เพราะเป็นผู้ประกอบด้วยธรรมของสัตบุรุษ
(มีสติด้วยเหตุอีก 10 อย่าง คือ)
1. ชื่อว่ามีสติ เพราะระลึกถึงพุทธคุณ
2. ชื่อว่ามีสติ เพราะระลึกถึงธรรมคุณ
3. ชื่อว่ามีสติ เพราะระลึกถึงสังฆคุณ
4. ชื่อว่ามีสติ เพราะระลึกถึงศีลที่ตนรักษา
5. ชื่อว่ามีสติ เพราะระลึกถึงทานที่ตนบริจาคแล้ว
6. ชื่อว่ามีสติ เพราะระลึกถึงคุณที่ทำคนให้เป็นเทวดา
7. ชื่อว่ามีสติ เพราะตั้งสติกำหนดลมหายใจเข้าออก
8. ชื่อว่ามีสติ เพราะระลึกถึงความตายที่จะต้องมีเป็นธรรมดา
9. ชื่อว่ามีสติ เพราะระลึกทั่วไปในกาย(ให้เห็นว่าไม่งาม)
10. ชื่อว่ามีสติ เพราะระลึกถึงธรรมเป็นที่สงบระงับ(กิเลสและความทุกข์)
คือนิพพาน
สติ คือ ความตามระลึกถึง ความระลึกได้เฉพาะหน้า สติ คือ ความระลึกได้
ความจำได้ ความไม่เลื่อนลอย ความไม่หลงลืม สติ คือ สตินทรีย์(สติที่เป็นใหญ่)
สติพละ(สติที่เป็นกำลัง) สัมมาสติ(ระลึกชอบ) สติสัมโพชฌงค์(สติที่เป็นองค์แห่งการ
ตรัสรู้ธรรม) เอกายนมรรค(สติที่เป็นทางเอก) นี้แหละ ตรัสเรียกว่าสติ บุคคลผู้ประกอบ
ประกอบพร้อม ดำเนินไป ดำเนินไปพร้อม เป็นไป เป็นไปพร้อม เพียบพร้อมแล้ว
ด้วยสตินี้ ผู้นั้นพระผู้มีพระภาคตรัสเรียกว่าผู้มีสติ
พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย มหานิทเทส [อัฎฐกวรรค] 1. กามสุตตนิทเทส
คำว่า ผู้นั้นมีสติ ล่วงพ้นตัณหาที่ชื่อว่าวิสัตติกานี้ในโลก อธิบายว่า ผู้มีสติ
ย่อมข้าม ข้ามไป ข้ามพ้น ก้าวล่วง ล่วงเลยตัณหาที่ชื่อว่าวิสัตติกานี้ในโลก รวม
ความว่า ผู้นั้นมีสติ ล่วงพ้นตัณหาที่ชื่อว่าวิสัตติกานี้ในโลก ด้วยเหตุนั้น พระผู้มี-
พระภาคจึงตรัสว่า
ผู้ใดละกามได้ เหมือนคนเดินเลี่ยงหัวงู
ผู้นั้นมีสติ ล่วงพ้นตัณหาที่ชื่อว่าวิสัตติกานี้ในโลก
[4] (พระผู้มีพระภาคตรัสว่า)
นรชนใดปรารถนาเนือง ๆ ซึ่งไร่นา ที่ดิน เงิน
โค ม้า ทาส บุรุษ สตรี พวกพ้อง หรือกามเป็นอันมาก
คำว่า ไร่นา ในคำว่า ไร่นา ที่ดิน เงิน ได้แก่ นาข้าวสาลี นาข้าว ไร่ถั่วเขียว
ไร่ถั่วราชมาส นาข้าวเหนียว นาข้าวละมาน ไร่งา
คำว่า ที่ดิน ได้แก่ ที่ปลูกเรือน ที่สร้างยุ้งฉาง ที่หน้าเรือน ที่หลังเรือน ที่สวน
ที่อยู่
คำว่า เงิน ได้แก่ เหรียญกษาปณ์ ตรัสเรียกว่า เงิน รวมความว่า ไร่นา ที่ดิน
เงิน
คำว่า โค ม้า ทาส บุรุษ มีอธิบายดังนี้ โคทั้งหลายตรัสเรียกว่า โค
สัตว์ทั้งหลายมีปศุสัตว์เป็นต้นตรัสเรียกว่า ม้า
คำว่า ทาส ได้แก่ ทาส 4 จำพวก คือ
1. ทาสที่เกิดภายใน(ทาสในเรือนเบี้ย)
2. ทาสที่ซื้อมาด้วยทรัพย์(ทาสสินไถ่)
3. ผู้สมัครเป็นทาสเอง
4. เชลยที่ตกเป็นทาส
(สมจริงดังที่วิธูรบัณฑิตโพธิสัตว์กล่าวไว้ว่า)
คนบางพวกเป็นทาสโดยกำเนิด
บางพวกเป็นทาสที่เขาซื้อมาด้วยทรัพย์
บางพวกสมัครเข้าเป็นทาสเอง
บางพวกตกเป็นเชลยจึงยอมเป็นทาส1
เชิงอรรถ :
1 ขุ.ชา. 28/1445/279