เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 10.เวสสันดรชาดก (547) กัณฑ์มัทรี
[2248] สระโบกขรณีที่น่ารื่นรมย์เหล่านี้ มีนกจักรพากส่งเสียงกู่ขัน
ดารดาษไปด้วยดอกมณฑาลก ปทุม และอุบล
ที่กุมารทั้ง 2 เคยมาเล่น กุมารเหล่านั้นไม่ปรากฏให้เห็น
[2249] พระองค์มิได้หักฟืน มิได้ตักน้ำ มิได้ติดไฟ
เพราะเหตุไรหนอ พระองค์จึงทรงหงอยเหงาซบเซาอยู่
[2250] เพราะคนรักกับคนรักยังรวมกันอยู่
ความทุกข์ร้อนของหม่อมฉันย่อมหายไป
วันนี้ หม่อมฉันมิได้เห็นลูกน้อยทั้ง 2
คือ พ่อชาลีและแม่กัณหาชินา
[2251] ข้าแต่สมมติเทพ หม่อมฉันมิได้เห็นลูกน้อยทั้ง 2 ของฉัน
ไม่ทราบว่า ผู้ใดนำลูกน้อยเหล่านั้นไป
แม้แต่ฝูงกาป่าก็มิได้ส่งเสียงร้อง
ทารกทั้งหลายของหม่อมฉันคงตายแล้วเป็นแน่
[2252] ข้าแต่สมมติเทพ หม่อมฉันมิได้เห็นลูกน้อยทั้ง 2 ของเรา
ไม่ทราบว่า ผู้ใดนำลูกน้อยเหล่านั้นไป
แม้ฝูงนกก็มิได้ส่งเสียงร้อง
ทารกทั้งหลายของหม่อมฉันคงตายแล้วเป็นแน่
[2253] พระนางมัทรีทรงปริเวทนา
พลางเที่ยวไปวิ่งหาตามซอกเขาและป่าชัฏ
ในท้องเขาวงกตนั้นแล้วเสด็จมายังอาศรมอีก
ทรงกันแสงอยู่ในสำนักพระราชสวามี ทูลคร่ำครวญว่า
[2254] ข้าแต่สมมติเทพ หม่อมฉันมิได้เห็นลูกน้อยทั้ง 2 ของเรา
และไม่ทราบว่า ผู้ใดนำลูกน้อยเหล่านั้นไป
แม้แต่ฝูงกาป่าก็มิได้ส่งเสียงร้อง
ทารกทั้งหลายของหม่อมฉันคงตายแล้วเป็นแน่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :531 }