เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 10.เวสสันดรชาดก (547) กัณฑ์มัทรี
[2186] เมื่อพระนางเสด็จกลับบ่ายพระพักตร์มาสู่อาศรม
ในเวลาที่พระอาทิตย์อัสดงคต เหล่าสัตว์ร้ายก็มายืนขวางทาง
(พระนางมัทรีรำพึงว่า)
[2187] เมื่อพระอาทิตย์คล้อยต่ำลง และอาศรมก็ยังอยู่ไกลนัก
พระเจ้าพี่เวสสันดรและพระลูกรักทั้ง 2 นั้น
ก็คอยบริโภคมูลผลาหารที่เราจักนำไปจากป่านี้
[2188] พระจอมกษัตริย์นั้นประทับอยู่ในบรรณศาลาพระองค์เดียว
คงจะทรงปลอบประโลมให้ลูกน้อยทั้ง 2 ผู้หิวกระหาย
คอยทอดพระเนตรดูเราผู้ยังมาไม่ถึงให้ยินดีเป็นแน่แท้
[2189] ลูกน้อยเหล่านั้นของเราเป็นกำพร้าน่าสงสาร
ในเวลาเย็นเป็นเวลากินเวลาดื่มก็จักคอย
เหมือนลูกเนื้อที่กำลังดื่มนมเป็นแน่แท้
[2190] ลูกน้อยเหล่านั้นของเราเป็นกำพร้าน่าสงสาร
ในเวลาเย็นเป็นเวลากินเวลาดื่มก็จักคอย
เหมือนลูกเนื้อที่กำลังกระหายน้ำเป็นแน่แท้
[2191] ลูกน้อยเหล่านั้นของเราเป็นกำพร้าน่าสงสาร
คงจะยืนคอยต้อนรับเรา
เหมือนลูกโคอ่อนคอยชะเง้อหาแม่เป็นแน่แท้
[2192] ลูกน้อยเหล่านั้นของเราเป็นกำพร้าน่าสงสาร
คงจะยืนคอยต้อนรับเรา
เหมือนลูกหงส์ที่ตกอยู่ในเปือกตมเป็นแน่แท้
[2193] ลูกน้อยเหล่านั้นของเราเป็นกำพร้าน่าสงสาร
คงจะยืนคอยต้อนรับเราอยู่ไม่ไกลจากอาศรม
[2194] หนทางที่จะไปก็มีอยู่ทางเดียว
และเป็นทางที่เดินไปได้คนเดียว โดยข้างหนึ่งเป็นสระน้ำ
อีกข้างหนึ่งเป็นบึง เรายังไม่เห็นทางอื่นที่จะไปสู่อาศรมได้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :523 }