เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 10.เวสสันดรชาดก (547) กัณฑ์กุมาร
[2127] พราหมณ์ผู้หยาบช้านี้ประกอบด้วยบุรุษโทษ 18 ประการ1 คือ

1. มีเท้าทู่ 2. มีเล็บกุด
3. มีปลีน่องหย่อนยาน 4. มีริมฝีปากบนยาว
5. มีน้ำลายไหล 6. มีเขี้ยว
7. มีจมูกหัก
[2128] 8. มีพุงเหมือนหม้อ 9. มีหลังค่อม
10. มีตาเหล่ 11. มีหนวดแดง
12. มีผมเหลือง 13. มีหนังย่นตกกระ
[2129] 14. มีตาเหลือง 15. มีกายคต
16. มีขาโกง 17. มีขนหยาบยาว

18. นุ่งห่มหนังเสือ เป็นอมนุษย์ที่น่าสะพรึงกลัว
[2130] เป็นมนุษย์หรือยักษ์ที่กินเนื้อและเลือด
ออกจากบ้านมาสู่ป่า มาทูลขอทรัพย์กับพระองค์ พระเจ้าข้า
(กัณหาชาลีกล่าวว่า)
[2131] ข้าแต่พระบิดา หม่อมฉันทั้ง 2 กำลังถูกปีศาจนำไปอยู่
เพราะเหตุไรหนอ พระองค์จึงทรงมองเมินอยู่
พระทัยของเสด็จพ่อเห็นจะเหมือนหิน
หรือมิฉะนั้น ก็เหมือนแผ่นเหล็กที่ตรึงไว้

เชิงอรรถ :
1 บุรุษโทษ 18 ประการ คือ (1) มีเท้าทู่ หมายถึงมีเท้าแบนเป็นแผ่น (2) มีเล็บกุด หมายถึงมีเล็บเน่า
(3) มีปลีน่องหย่อนยาน หมายถึงเนื้อปลีน่องหย่อนยานลงข้างล่าง (4) มีริมฝีปากบนยาว หมายถึง
ริมฝีปากด้านบนยาวห้อยปิดริมฝีปากด้านล่าง (5) มีน้ำลายไหล หมายถึงมีน้ำลายไหล(ตลอดเวลา)
(6) มีเขี้ยว หมายถึงมีเขี้ยวงอกขึ้นเหมือนเขี้ยวสุกร (7) มีจมูกหัก หมายถึงมีจมูกทั้งหักทั้งคด (8-10
ความชัดแล้ว) (11) มีหนวดแดง หมายถึงมีหนวดสีแดงเหมือนเส้นลวดทองแดง (12) มีผมเหลือง
หมายถึงมีผมงอกขึ้นมาเป็นสีทอง (13) มีหนังย่นตกกระ หมายถึงหนังตามตัวเต็มไปด้วยรอยย่นและ
เกลื่อนกล่นไปด้วยมูลแมลงวัน (14) มีตาเหลือง หมายถึงมีลูกตาเหลือกเหลืองเหมือนตาแมว (15) มี
กายคด หมายถึงมีที่คด 3 แห่ง คือ สะเอว หลัง และคอ (16) มีขาโกง หมายถึงมีเท้าเฉไปคนละทาง
ข้อต่อกระดูกไม่สนิทกัน (เวลาเดิน)เสียงดังกฏะ กฏะ (17) ความชัดแล้ว (18) เป็นอมนุษย์ หมายถึง
ไม่ใช่มนุษย์ คือ ผู้นั้นเป็นยักษ์จำแลงตัวเป็นมนุษย์เที่ยวไป (ขุ.ชา.อ. 10/2127-2129/391-392)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :514 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 10.เวสสันดรชาดก (547) กัณฑ์กุมาร
[2132] พระองค์ไม่ทรงรู้สึกว่า หม่อมฉันทั้ง 2
ถูกพราหมณ์ผู้หยาบช้าเหลือเกิน ผู้แสวงหาทรัพย์ผูกมัด
แกเฆี่ยนตีหม่อมฉันทั้ง 2 เหมือนนายโคบาลเฆี่ยนตีโค
[2133] ขอให้น้องกัณหาอยู่ ณ ที่นี้นี่แหละ
เธอยังไม่รู้จักทุกข์ร้อนอะไร ๆ เธอจะคร่ำครวญ
เหมือนลูกเนื้อที่ยังดื่มนมพลัดจากฝูงไม่เห็นแม่
(พระกุมารคร่ำครวญถึงพระมารดาและพระบิดาว่า)
[2134] ข้าพระองค์ไม่เป็นทุกข์
เพราะความทุกข์เช่นนี้คนพึงได้รับเหมือนกัน
แต่ทุกข์ที่หม่อมฉันไม่เห็นพระมารดา
เป็นทุกข์ที่ยิ่งกว่านี้ของหม่อมฉัน
[2135] ข้าพระองค์ไม่เป็นทุกข์
เพราะความทุกข์เช่นนี้คนพึงได้รับเหมือนกัน
แต่ทุกข์ที่หม่อมฉันไม่เห็นเสด็จพ่อ
เป็นทุกข์ที่ยิ่งกว่านี้ของหม่อมฉัน
[2136] พระมารดานั้นจักทรงทนทุกข์ลำบากแน่
เมื่อไม่ได้ทอดพระเนตรเห็นพระกัณหาชินากุมารี
ผู้มีดวงเนตรงดงาม ก็จักทรงกันแสงพร่ำหาตลอดกาลนาน
[2137] พระบิดานั้นจักทรงทนทุกข์ลำบากแน่
เมื่อไม่ได้ทอดพระเนตรเห็นพระกัณหาชินากุมารี
ผู้มีดวงเนตรงดงาม ก็จักทรงกันแสงพร่ำหาตลอดกาลนาน
[2138] พระมารดานั้นจักทรงทนทุกข์ลำบากแน่
เมื่อไม่ได้ทอดพระเนตรเห็นพระกัณหาชินากุมารี
ผู้มีดวงเนตรงดงาม ก็จักทรงกันแสงพร่ำหา
ในอาศรมตลอดกาลนาน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :515 }