เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [19.สัฏฐินิบาต] 2.สังกิจจชาดก (530)
[102] อนึ่ง คนใดฆ่าบรรพชิตผู้ทำกิจเสร็จแล้ว
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
คนนั้นย่อมหมกไหม้อยู่ในกาฬสุตตนรกตลอดราตรีนาน
[103] อนึ่ง พระราชาพระองค์ใดไม่ตั้งอยู่ในธรรม
ทรงมีอคติ เที่ยวกำจัดแคว้น ทำชนบทให้เดือดร้อน
สิ้นพระชนม์แล้วจะหมกไหม้อยู่ในตาปนนรก
[104] และท้าวเธอจะต้องหมกไหม้อยู่ตลอดแสนปีทิพย์1
จะถูกกลุ่มเปลวเพลิงห้อมล้อมเสวยทุกขเวทนา
[105] เปลวเพลิงจะเปล่งรัศมีพวยพุ่งออกจากพระกายของท้าวเธอ
สรรพางค์กายพร้อมทั้งขนและเล็บทั้งหลายของสัตว์
ผู้มีไฟเป็นอาหารจะลุกโชนเป็นอันเดียวกัน
[106] สัตว์นรกมีกายถูกไฟครอกทั้งภายในและภายนอกอยู่เป็นนิตย์
ถูกความทุกข์ย่ำยีร้องครวญครางอยู่เหมือนช้างถูกสับด้วยตะขอ
[107] คนใดเป็นคนต่ำช้า ฆ่าบิดาเพราะความโลภหรือความโกรธ
คนนั้นย่อมหมกไหม้ในกาฬสุตตนรกตลอดราตรีนาน
[108] คนผู้ฆ่าบิดาเช่นนั้นจะต้องหมกไหม้อยู่ในโลหกุมภีนรก
และนายนิรยบาลทั้งหลายจะใช้หอกแทงเขาผู้ถูกต้มจนไม่มีหนัง
ทำให้ตาบอด ให้กินปัสสาวะและอุจจาระเป็นอาหาร
แล้วกดคนเช่นนั้นให้จมลงในน้ำกรด
[109] นายนิรยบาลบังคับให้สัตว์นรกกินน้ำอุจจาระ
ที่ร้อนจนเดือดพล่าน และก้อนเหล็กแดงที่มีไฟลุกโชน
ถือเอาผาลที่ยาวและร้อนอยู่ตลอดราตรีนาน
งัดปาก เมื่อปากเปิดอ้าจึงใช้เบ็ด
ที่ผูกสายเชือก(ดึงลิ้นออกมา) แล้วจึงยัด(เหล็กแดง)เข้าไป

เชิงอรรถ :
1 หนึ่งแสนปีทิพย์ ประมาณ 55,872 ล้านปีมนุษย์ (คำนวนตามประมาณอายุ)(อภิ.วิ.อ. 1/1023/515)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :50 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [19.สัฏฐินิบาต] 2.สังกิจจชาดก (530)
[110] ฝูงสุนัขดำ ฝูงสุนัขด่าง ฝูงนกแร้ง ฝูงกาป่า
และฝูงนกปากเหล็ก
พากันรุมจิกกัดสัตว์นรกผู้กำลังดิ้นทุรนทุราย
แบ่งกันกินเป็นอาหารพร้อมทั้งเลือด
[111] สัตว์นรกผู้ฆ่าบิดานั้นมีร่างกายแตกปริไปทั่ว
เหมือนต้นตาลที่ถูกไฟไหม้
นายนิรยบาลทั้งหลายจะเที่ยวติดตามทุบตี
จริงอยู่ นายนิรยบาลเหล่านั้นมีความยินดี
แต่พวกสัตว์นรกนอกนี้ได้รับทุกข์ทรมาน
คนผู้ฆ่าบิดาทุกจำพวกในโลกนี้ต้องตกอยู่ในนรกเช่นนั้น
[112] อนึ่ง บุตรฆ่ามารดา ตายจากโลกนี้ไปแล้ว
เข้าถึงที่อยู่ของพญายม
ต้องเสวยทุกข์อย่างร้ายแรงด้วยผลกรรมของตน
[113] นายนิรยบาลทั้งหลายที่มีพละกำลังอย่างยิ่ง
จะใช้ขนหางสัตว์ที่เป็นลวดเหล็กแดง
มัดบีบคั้นสัตว์นรกที่ฆ่ามารดาผู้ให้กำเนิดอยู่เสมอ ๆ
[114] บังคับให้สัตว์นรกนั้นผู้ฆ่ามารดาดื่มเลือดที่มีอยู่ในตน
ที่ไหลออกจากร่างกายของตน
ซึ่งร้อนปานประหนึ่งน้ำทองแดงที่ละลายคว้าง
[115] สัตว์นรกนั้นลงสู่ห้วงน้ำที่คล้ายน้ำหนองน้ำเลือด
มีโคลนตม คูถอันน่าเกลียด
มีกลิ่นเหม็นเน่าดุจซากศพ แล้วยืนอยู่
[116] ณ ห้วงน้ำนั้น หมู่หนอนปากเหล็ก
มีร่างกายใหญ่โตเหลือประมาณทำลายผิวหนัง
ชอนไชเข้าไปในเนื้อและเลือด กัดกินสัตว์นรกนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :51 }