เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 10.เวสสันดรชาดก (547) จูฬวนวัณณนา
[1997] ไม้ป่านั้นมีกลิ่นต่าง ๆ มีลมโชยพัดมา
หอมฟุ้งตลบอบอวลเหมือนจะยังชนผู้มาถึงแล้ว
ให้บันเทิงเบิกบานด้วยกลิ่นและพวงดอกไม้
หมู่ภมรก็โผบินร่อนส่งเสียงกระหึ่มอยู่รายรอบ
เพราะกลิ่นหอมของดอกไม้
[1998] อนึ่ง ที่ใกล้อาศรมนี้
มีฝูงนกจำนวนมากที่มีสีต่าง ๆ กัน
ต่างก็บันเทิงใจอยู่กับคู่ของตน
กู่ร้องประชันเสียงกันและกัน
[1999] ยังมีฝูงนกอีก 4 ฝูง1 อาศัยอยู่ใกล้สระโบกขรณี
คือ ฝูงนกนันทิกา ฝูงนกชีวปุตตา
ฝูงนกปุตตาปิยาจโน ฝูงนกปิยปุตตาปิยานันทา
[2000] ดอกไม้ทั้งหลาย ตั้งเรียงรายกันอยู่
เหมือนพวงมาลัยที่เขาร้อยไว้
หมู่ไม้เหล่านั้นย่อมปรากฏดังยอดธงชัย มีดอกสีต่าง ๆ กัน
ดังนายช่างผู้ฉลาดได้เก็บมาเรียงร้อยไว้เป็นอย่างดี
ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระราชาเวสสันดร
พร้อมด้วยพระโอรสทั้งหลายประทับอยู่
[2001] พระองค์ทรงเพศเป็นนักบวชอันประเสริฐ
ทรงขอสอยผลไม้ เครื่องบูชาไฟและชฎา
ทรงนุ่งห่มหนังเสือ บรรทมเหนือพื้นดินและทรงบูชาไฟอยู่

เชิงอรรถ :
1 ฝูงนก 4 ฝูง หมายถึงนกที่มีชื่อต่างกันตามเสียงร้อง ฝูงนกนันทิการ้องว่า “ข้าแต่พระเวสสันดรผู้เป็น
นาย ขอให้ท่านอยู่ในป่านี้อย่างเพลิดเพลินเถิด” ฝูงนกชีวปุตตาร้องว่า “ขอให้พระองค์และพระราชโอรส
จงเป็นอยู่สบาย” ฝูงนกปุตตาปิยาจโนร้องว่า “ขอให้พระองค์และพระโอรสสุดที่รักจงมีชีวิตอยู่” ฝูงนก
ปิยปุตตาปิยานันทาร้องว่า “ขอให้พระองค์และพระราชโอรสสุดที่รักจงเพลิดเพลิน” (ขุ.ชา.อ.
10/1999/365)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :496 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 10.เวสสันดรชาดก (547) มหาวนวัณณนา
(ชูชกกล่าวว่า)
[2002] ก็ข้าวสัตตุผงที่ระคนด้วยน้ำผึ้ง
และข้าวสัตตุก้อนที่มีรสหวานอร่อยของเรานี้
ที่นางอมิตตตาได้จัดแจงให้ เราจะแบ่งให้แก่เจ้า
(พรานเจตบุตรกล่าวว่า)
[2003] ท่านพราหมณ์ ขอจงเอาไว้เป็นเสบียงทางของท่านเถิด
ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาเสบียงทาง ท่านพราหมณ์
ขอท่านจงรับเอาคืนไปจากที่นี้เถิด ขอท่านจงไปตามสบายเถิด
[2004] ทางนี้เป็นทางเดินไปได้คนเดียว ตรงไปยังอาศรม
แม้อัจจุตฤๅษีผู้อยู่ในอาศรมนั้นเป็นผู้มีขี้ฟันเขรอะ
มีศีรษะเปื้อนด้วยธุลี ทรงเพศเป็นนักบวชอันประเสริฐ
ถือขอสอยผลไม้ เครื่องบูชาไฟและชฎาอยู่
[2005] เป็นผู้นุ่งห่มหนังเสือ นอนเหนือพื้นดิน และบูชาไฟ
เชิญท่านไปถามฤๅษีนั้นดูเถิด ฤๅษีจักบอกทางให้แก่ท่าน
[2006] ชูชกผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งพราหมณ์
ครั้นได้ฟังคำแนะนำนี้แล้วกระทำประทักษิณ
มีใจเบิกบาน อำลาพรานเจตบุตร
แล้วหลีกไปในทางที่อัจจุตฤๅษีอยู่
พรรณนากัณฑ์จุลพน จบ

มหาวนวัณณนา
พรรณนากัณฑ์มหาพน
[2007] พราหมณ์ชูชกภารทวาชะนั้น
เมื่อเดินไปก็ได้พบอัจจุตฤๅษี ครั้นพบแล้ว
ได้ทักทายปราศรัยกับอัจจุตฤๅษีว่า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :497 }