เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 10.เวสสันดรชาดก (547) จูฬวนวัณณนา
[1991] อนึ่ง ในบริเวณอาศรมนั้นมีต้นราชพฤกษ์
มะเกลือ กฤษณา รักดำ ไทรใหญ่ หงอนไก่
และประดู่ เป็นอันมาก มีดอกบานสะพรั่ง
[1992] ในบริเวณอาศรมนั้นมีไม้โมกหลวง
ไม้สน ไม้กระทุ่ม ไม้ช่อ ไม้ตะแบก และไม้รัง
ล้วนมีดอกบานสะพรั่ง เป็นพุ่มเหมือนลอมฟาง
[1993] ในที่ไม่ไกลจากอาศรมนั้น
มีสระโบกขรณี ณ ภูมิภาคอันน่ารื่นรมย์
ดารดาษไปด้วยดอกปทุมและดอกอุบล
เหมือนสระโบกขรณีที่อยู่ในอุทยานนันทวันของเหล่าเทวดา
[1994] อนึ่ง ณ ที่ใกล้สระโบกขรณีนั้น
มีฝูงนกดุเหว่าเมารสดอกไม้ ส่งเสียงร้องไพเราะจับใจ
ทำให้ป่าใหญ่ดังอึกทึกกึกก้อง
เมื่อหมู่ไม้ผลิดอกออกช่อเบ่งบานตามฤดูกาล
[1995] รสหวานปานน้ำผึ้งพลัดร่วงลงจากเกสรดอกไม้
มาติดค้างอยู่บนใบบัว จึงชื่อว่าน้ำผึ้งใบบัว
อนึ่ง อาศรมนั้น เมื่อลมทิศใต้และทิศตะวันตกพัดมา
ก็เกลื่อนกลาดไปด้วยละอองเกสรดอกปทุม
[1996] ในสระโบกขรณีนั้นมีกระจับขนาดใหญ่
ทั้งข้าวสาลีอ่อนบ้าง แก่บ้าง
เหล่านั้นนั่นแหละล้มระเนระนาดอยู่บนพื้นดิน
และในสระโบกขรณีนั้น น้ำใสสะอาดมองเห็นฝูงปลา
เต่า และปูเป็นจำนวนมากที่กำลังว่ายไปมาเป็นกลุ่ม
รสที่ไหลออกจากเหง้าบัวและจากสายบัว
มีรสหวานปานน้ำผึ้ง นมสด และเนยใสที่เจือปนด้วยน้ำนม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :495 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 10.เวสสันดรชาดก (547) จูฬวนวัณณนา
[1997] ไม้ป่านั้นมีกลิ่นต่าง ๆ มีลมโชยพัดมา
หอมฟุ้งตลบอบอวลเหมือนจะยังชนผู้มาถึงแล้ว
ให้บันเทิงเบิกบานด้วยกลิ่นและพวงดอกไม้
หมู่ภมรก็โผบินร่อนส่งเสียงกระหึ่มอยู่รายรอบ
เพราะกลิ่นหอมของดอกไม้
[1998] อนึ่ง ที่ใกล้อาศรมนี้
มีฝูงนกจำนวนมากที่มีสีต่าง ๆ กัน
ต่างก็บันเทิงใจอยู่กับคู่ของตน
กู่ร้องประชันเสียงกันและกัน
[1999] ยังมีฝูงนกอีก 4 ฝูง1 อาศัยอยู่ใกล้สระโบกขรณี
คือ ฝูงนกนันทิกา ฝูงนกชีวปุตตา
ฝูงนกปุตตาปิยาจโน ฝูงนกปิยปุตตาปิยานันทา
[2000] ดอกไม้ทั้งหลาย ตั้งเรียงรายกันอยู่
เหมือนพวงมาลัยที่เขาร้อยไว้
หมู่ไม้เหล่านั้นย่อมปรากฏดังยอดธงชัย มีดอกสีต่าง ๆ กัน
ดังนายช่างผู้ฉลาดได้เก็บมาเรียงร้อยไว้เป็นอย่างดี
ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระราชาเวสสันดร
พร้อมด้วยพระโอรสทั้งหลายประทับอยู่
[2001] พระองค์ทรงเพศเป็นนักบวชอันประเสริฐ
ทรงขอสอยผลไม้ เครื่องบูชาไฟและชฎา
ทรงนุ่งห่มหนังเสือ บรรทมเหนือพื้นดินและทรงบูชาไฟอยู่

เชิงอรรถ :
1 ฝูงนก 4 ฝูง หมายถึงนกที่มีชื่อต่างกันตามเสียงร้อง ฝูงนกนันทิการ้องว่า “ข้าแต่พระเวสสันดรผู้เป็น
นาย ขอให้ท่านอยู่ในป่านี้อย่างเพลิดเพลินเถิด” ฝูงนกชีวปุตตาร้องว่า “ขอให้พระองค์และพระราชโอรส
จงเป็นอยู่สบาย” ฝูงนกปุตตาปิยาจโนร้องว่า “ขอให้พระองค์และพระโอรสสุดที่รักจงมีชีวิตอยู่” ฝูงนก
ปิยปุตตาปิยานันทาร้องว่า “ขอให้พระองค์และพระราชโอรสสุดที่รักจงเพลิดเพลิน” (ขุ.ชา.อ.
10/1999/365)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :496 }