เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [19.สัฏฐินิบาต] 2.สังกิจจชาดก (530)
[94] พระเจ้าอัชชุนะทรงเป็นใหญ่ในแคว้นเกตกะ
มีพระวรกายกำยำล่ำสัน
ทรงเป็นนายขมังธนูผู้ยิ่งใหญ่ มีพระพาหาตั้งพัน
ก็หายสาบสูญไปเพราะระรานโคตมฤๅษี
[95] พระเจ้าทัณฑกีได้ทรงเอาธุลีโปรยใส่กีสวัจฉฤๅษี
ผู้ไม่มีกิเลสเพียงดังธุลี
พระองค์ทรงถึงความพินาศเหมือนต้นตาลถูกตัดราก
[96] พระเจ้ามัชฌะคิดร้ายมาตังคฤๅษีผู้เรืองยศ
จึงได้หายสาบสูญไปพร้อมทั้งบริษัท
แคว้นของพระองค์ก็กลายเป็นป่าไม้ในกาลนั้น
[97] ชาวเมืองอันธกเวณฑยะระรานกัณหทีปายนฤๅษี
ต่างถือไม้พลองตีกันและกัน
ก็พากันไปถึงสถานที่ชำระโทษของพญายม
[98] ส่วนพระเจ้าเจจจะพระองค์นี้
เมื่อก่อนทรงเหาะไปในอากาศได้
ถูกกบิลดาบสสาปมีอัตภาพเสื่อมสิ้นฤทธิ์แล้ว
ถูกแผ่นดินสูบถึงสิ้นพระชนม์
[99] เพราะเหตุนั้นแหละ บัณฑิตทั้งหลายจึงไม่สรรเสริญ
การถึงความลำเอียงเพราะความชอบ
บุคคลไม่พึงมีจิตคิดประทุษร้าย
พึงกล่าววาจาที่ประกอบด้วยความจริง
[100] ถ้าว่าคนใดมีใจประทุษร้าย
เพ่งเล็งมุนีผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
เขาก็จะไปสู่นรกเบื้องต่ำ
[101] ชนเหล่าใดพยายามพูดคำหยาบคาย ด่าว่าผู้เฒ่า
ชนเหล่านั้นจะไม่มีที่พึ่ง ไม่มีทายาท
เป็นเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :49 }