เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 10.เวสสันดรชาดก (547) กัณฑ์หิมพานต์
[1695] ได้เห็นพระเวสสันดรราชกุมาร
ซึ่งกำลังทรงพระสำราญรื่นรมย์อยู่
ในพระราชวังของพระองค์ซึ่งแน่นขนัดไปด้วยหมู่อำมาตย์
ปานประหนึ่งท้าววาสวะแห่งสวรรค์ชั้นไตรทศ
[1696] นายนักการนั้นครั้นรีบไปในพระราชนิเวศน์นั้นแล้ว
จึงได้กราบทูลพระเวสสันดรว่า ข้าแต่พระองค์ผู้จอมทัพ
ข้าพระองค์จะกราบทูลความทุกข์แด่พระองค์
ขอพระองค์อย่าได้ทรงกริ้วข้าพระองค์เลย
[1697] นายนักการนั้นถวายบังคมแล้วพลางร้องไห้คร่ำครวญ
กราบทูลพระราชาว่า ข้าแต่มหาราช
พระองค์ทรงชุบเลี้ยงข้าพระองค์
ทรงนำมาซึ่งรสที่น่าใคร่ทุกอย่าง
[1698] ข้าพระบาทจะกราบทูลแด่พระองค์
เมื่อข้าพระองค์กราบทูลข่าวสาส์นเรื่องทุกข์ร้อนนั้นแล้ว
ขอพระองค์จงทรงยังข้าพระองค์ให้เบาใจด้วยเกิด
ขอเดชะ ชาวกรุงสีพีและชาวนิคมโกรธเคืองพระองค์
มาชุมนุมกันแล้ว
[1699] พวกคนผู้มีชื่อเสียง พระราชบุตร แพศย์ พราหมณ์
กองพลช้าง กองพลม้า กองพลรถ กองพลราบ
ทั้งชาวนิคมและชาวกรุงสีพีทั้งมวลล้วนมาประชุมกัน
[1700] เมื่อสิ้นราตรีนี้แล้ว ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว
ชาวกรุงสีพีจะชุมนุมกันขับไล่พระองค์ออกไปจากแคว้น
(พระเวสสันดรตรัสถามว่า)
[1701] นายนักการ เพราะเหตุไร ชาวกรุงสีพีจึงโกรธเคืองเรา
ขอท่านจงบอกความชั่วที่เรามองไม่เห็น
ทำไม พวกเขาจึงจะขับไล่เรา

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :454 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 10.เวสสันดรชาดก (547) กัณฑ์หิมพานต์
(นายนักการกราบทูลว่า)
[1702] พวกคนผู้มีชื่อเสียง พระราชบุตร แพศย์ พราหมณ์
กองพลช้าง กองพลม้า กองพลรถ กองพลราบ
ต่างพากันติเตียน เพราะพระองค์พระราชทานพญาช้าง
เหตุนั้น พวกเขาจึงจะขับไล่พระองค์
(พระเวสสันดรตรัสว่า)
[1703] เราจะให้หทัย ให้จักษุ เงิน ทอง แก้วมุกดา แก้วไพฑูรย์
หรือแก้วมณีซึ่งเป็นทรัพย์ภายนอกของเราก็จะเป็นไรไป
[1704] เมื่อยาจกมาถึง เราเห็นแล้วจะพึงให้แขนขวาแขนซ้าย
ก็ไม่หวั่นไหวเลย ใจของเรายินดีในการให้
[1705] ถึงชาวกรุงสีพีทั้งมวลจะขับไล่เราหรือจะเข่นฆ่าเรา
หรือตัดเราให้เป็น 7 ท่อนก็ตามเถิด
เราจะไม่งดการให้เลย
[1706] ชาวกรุงสีพีและชาวนิคมประชุมพร้อมกันกล่าวอย่างนี้ว่า
พระเวสสันดรผู้มีวัตรอันงามจงเสด็จไป
สู่อารัญชรคีรีทางฝั่งแม่น้ำโกนติมารา
ตามทางที่พระราชาผู้ถูกขับไล่เสด็จออกไปนั้นเถิด
(พระเวสสันดรตรัสว่า)
[1707] เรานั้นจักไปตามทางที่พระราชาผู้มีโทษเสด็จไป
ขอให้ท่านทั้งหลายจงงดโทษแก่เราคืนหนึ่งและวันหนึ่ง
พอให้เราได้ให้ทานก่อนเถิด
(พระศาสดาเมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงตรัสว่า)
[1708] พระราชาตรัสตักเตือนพระนางมัทรี
ผู้มีความงามทั่วสรรพางค์กายว่า
ทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งที่ได้ให้แก่พระนาง
และสิ่งของที่ควรสงวนอันเป็นของพระนาง

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :455 }