เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 9.วิธุรชาดก (546) โทหฬกัณฑ์
(พระศาสดาเมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงตรัสว่า)
[1359] ลำดับนั้น ท้าววรุณนาคราชเสด็จเข้าไปสู่นิเวศน์
ปรึกษากับพระชายา ตรัสคำนี้ว่า
[1360] “ปุณณกยักษ์นี้นั้นมาขอลูกอิรันทดีกับเรา
เราจะให้ลูกอิรันทดีผู้เป็นที่รักของเราแก่ปุณณกยักษ์นั้น
เพราะได้ทรัพย์เครื่องปลื้มใจเป็นจำนวนมากหรือ”
(นางนาควิมลามเหสีกราบทูลว่า)
[1361] “ปุณณกยักษ์ไม่พึงได้ลูกอิรันทดีของเรา
เพราะทรัพย์ เพราะสิ่งที่น่าปลื้มใจ
แต่ถ้าปุณณกยักษ์จะพึงได้หทัยของบัณฑิต
นำมาในนาคพิภพนี้ได้โดยชอบธรรม
เขาจะพึงได้ลูกสาวของเราเพราะสิ่งที่น่าปลื้มใจนั้น
หม่อมฉันไม่ปรารถนาทรัพย์อื่นยิ่งกว่านี้
(พระศาสดาเมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงตรัสว่า)
[1362] ลำดับนั้น ท้าววรุณนาคราชเสด็จออกจากนิเวศน์
ตรัสเรียกปุณณกยักษ์มาแล้วตรัสดังนี้ว่า
[1363] “ท่านไม่พึงได้ลูกอิรันทดีของเรา
เพราะทรัพย์ เพราะสิ่งที่น่าปลื้มใจ
ถ้าท่านได้หทัยของบัณฑิตนำมาในนาคพิภพนี้ได้โดยชอบธรรม
ท่านจะพึงได้ลูกสาวของเราเพราะสิ่งที่น่าปลื้มใจนั้น
เราไม่ปรารถนาทรัพย์อื่นยิ่งไปกว่านี้”
(ปุณณกยักษ์กราบทูลว่า)
[1364] “ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐในโลกนี้
คนบางคนย่อมเรียกคนใดว่าเป็นบัณฑิต
คนอีกพวกหนึ่งกลับเรียกคนนั้นนั่นแหละว่าเป็นพาล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :394 }