เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [18.ปัญญาสนิบาต] 3.มหาโพธิชาดก (528)
[162] คนเหล่าใดกล่าวว่า
ความเพียรไม่มี 1 ประกาศความไม่มีเหตุ 1
พรรณนาการกระทำของผู้อื่นและการกระทำของตน
ว่าเป็นการสูญเปล่า 1
[163] คนเหล่านั้นเป็นอสัตบุรุษ เป็นคนพาล
มีความสำคัญตนว่าเป็นบัณฑิตในโลก
คนเช่นนั้นพึงกระทำบาปเองบ้าง
พึงแนะนำให้ผู้อื่นกระทำบาปบ้าง
การคลุกคลีกับอสัตบุรุษมีทุกข์เป็นที่สุด
มีผลเผ็ดร้อนเป็นกำไร
[164] ก็ถ้าว่าความเพียรไม่พึงมี กรรมดีกรรมชั่วไม่พึงมี
พระราชาก็จะไม่ทรงชุบเลี้ยงช่างไม้
แม้เครื่องยนต์ทั้งหลายก็จะไม่พึงให้สร้าง
[165] แต่เพราะความเพียรมีอยู่ กรรมดีกรรมชั่วก็มีอยู่
ฉะนั้น พระราชาจึงทรงให้สร้างเครื่องยนต์
และทรงชุบเลี้ยงช่างไม้ไว้
[166] หากฝนไม่พึงตก หิมะไม่พึงตกตลอด 100 ปี
โลกนี้ก็พึงขาดสูญ หมู่สัตว์นี้พึงพินาศไป
[167] แต่เพราะฝนยังตกอยู่ และหิมะยังโปรยปรายอยู่เนือง ๆ
ฉะนั้น ข้าวกล้าจึงเผล็ดผล
และทำให้พระราชาปกครองแคว้นได้ยั่งยืน
[168] เมื่อฝูงโคข้ามน้ำไป
ถ้าโคจ่าฝูงไปคดเคี้ยว
โคทั้งฝูงก็ไปคดเคี้ยวตามกัน
ในเมื่อโคจ่าฝูงไปคดเคี้ยว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :31 }