เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 3.สุวัณณสามชาดก (540)
[390] ลูกสามนี้ได้เคยเป็นผู้มีปกติประพฤติธรรมมาก่อน
ด้วยสัจวาจานี้ ขอพิษของลูกสามจงเสื่อมหายไป
[391] ลูกสามนี้มีปกติประพฤติพรหมจรรย์มาก่อน
ด้วยสัจวาจานี้ ขอพิษของลูกสามจงเสื่อมหายไป
[392] ลูกสามนี้มีปกติกล่าวคำสัตย์มาก่อน
ด้วยสัจวาจานี้ ขอพิษของลูกสามจงเสื่อมหายไป
[393] ลูกสามนี้ได้เป็นผู้เลี้ยงมารดาและบิดา
ด้วยสัจวาจานี้ ขอพิษของลูกสามจงเสื่อมหายไป
[394] ลูกสามนี้ได้เป็นผู้นอบน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล
ด้วยสัจวาจานี้ ขอพิษของลูกสามจงเสื่อมหายไป
[395] ลูกสามนี้เป็นที่รักยิ่งกว่าชีวิตของเรา
ด้วยสัจวาจานี้ ขอพิษของลูกสามจงเสื่อมหายไป
[396] บุญอย่างใดอย่างหนึ่งที่ลูกสามทำแล้วแก่เราและมารดาของเขา
ด้วยกุศลนั้นทั้งหมด ขอพิษของลูกสามจงเสื่อมหายไป
[397] นางเทพธิดาที่ภูเขาคันธมาทน์นั้นได้อันตรธานไป
ด้วยความอนุเคราะห์สามกุมาร จึงได้กล่าวสัจวาจานี้ว่า
[398] เราอยู่ที่ภูเขาคันธมาทน์มานาน
ไม่มีคนอื่น จะเป็นใครก็ตาม
เป็นที่รักของเรายิ่งกว่าสามกุมาร
ด้วยสัจวาจานี้ ขอพิษของสามกุมารจงเสื่อมหายไป
[399] ต้นไม้ทั้งหมดที่ภูเขาคันธมาทน์ล้วนแต่เป็นไม้หอม
ด้วยสัจวาจานี้ ขอพิษของสามกุมารจงเสื่อมหายไป
[400] เมื่อดาบสทั้ง 2 กำลังบ่นพร่ำรำพันอย่างน่าสงสารเป็นอันมาก
สามกุมารผู้ยังเป็นหนุ่มแน่นมีรูปสง่างาม ก็ได้ลุกขึ้นทันที

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :242 }