เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 3.สุวัณณสามชาดก (540)
[333] คนทั้งหลายประชุมกันในบ้าน
ต่างก็เตือนกันและกันให้ระลึกถึงกรรม
ส่วนในป่าที่หาคนมิได้ ใครหนอจะเตือนเราให้ระลึกถึงกรรม
[334] นางเทพธิดาที่ภูเขาคันธมาทน์นั้นได้อันตรธานไป
เพื่ออนุเคราะห์พระราชา จึงได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า
[335] ข้าแต่มหาราช
พระองค์ได้ทรงทำกรรมชั่วอย่างใหญ่หลวงแล้ว
มารดาและบิดา และบุตรรวม 3 คนผู้หาความผิดมิได้
พระองค์ทรงฆ่าแล้วด้วยลูกศรลูกเดียว
[336] เชิญเสด็จมาเถิด หม่อมฉันจะแนะนำถวายพระองค์
โดยประการที่พระองค์จะพึงมีสุคติ คือ
พระองค์จงทรงเลี้ยงดูท่านทั้ง 2 ผู้ตาบอดในป่าโดยธรรมเถิด
ดิฉันเข้าใจว่า พระองค์จักพึงไปสุคติ
[337] พระราชานั้นทรงคร่ำครวญอย่างน่าสงสารเป็นอันมาก
จึงทรงถือเอาหม้อน้ำ บ่ายพระพักตร์เสด็จหลีกไปทางทิศทักษิณ
(ทุกูลบัณฑิตไดัยินเสียงฝีพระบาทแห่งพระเจ้าปิลยักษ์ จึงถามว่า)
[338] นั่นเสียงใครเดินมา นั่นไม่ใช่เสียงฝีเท้าของพ่อสาม
ท่านผู้นิรทุกข์ ท่านเป็นใครกันหนอ
[339] เพราะพ่อสามเดินเงียบกริบ วางเท้าเรียบ
นั่นไม่ใช่เสียงฝีเท้าของพ่อสาม
ท่านนิรทุกข์ ท่านเป็นใครกันหนอ
(พระเจ้าปิลยักษ์ประทับยืนอยู่ที่ประตูบรรณศาลา ตรัสว่า)
[340] ข้าพเจ้าเป็นพระราชาของชาวกาสี
คนทั้งหลายรู้จักข้าพเจ้าว่า พระเจ้าปิลยักษ์
เพราะความโลภ ข้าพเจ้าจึงละทิ้งแคว้นมาเที่ยวแสวงหาเนื้อ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :235 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 3.สุวัณณสามชาดก (540)
[341] ทั้งข้าพเจ้าเป็นคนเชี่ยวชาญในศิลปะธนู เลื่องลือว่า
เป็นผู้มีความสามารถยิงธนูที่ต้องใช้กำลังคนถึง 1,000 คนได้
แม้ช้างที่มาถึงระยะลูกศรยิงก็ไม่พึงรอดพ้นไปได้
(ฝ่ายทุกูลบัณฑิตเมื่อจะทำปฏิสันถารกับพระเจ้าปิลยักษ์ จึงทูลว่า)
[342] ข้าแต่มหาราช พระองค์เสด็จมาดีแล้ว มิได้เสด็จมาร้าย
พระองค์ผู้เป็นใหญ่ได้เสด็จมาถึงแล้ว
ขอพระองค์จงตรัสบอกสิ่งที่ต้องประสงค์ซึ่งมีอยู่ในที่นี้เถิด
[343] ข้าแต่มหาราช ผลมะพลับ ผลมะหาด
ผลมะซาง และผลหมากเม่าซึ่งเป็นผลไม้เล็กน้อย
ขอพระองค์ทรงเลือกเสวยแต่ที่ดี ๆ เถิด
[344] ข้าแต่มหาราช ขอเชิญพระองค์ทรงดื่มน้ำเย็นนี้
ที่ข้าพระองค์ตักมาจากซอกเขาเถิด
ถ้าพระองค์ทรงพระประสงค์
(พระเจ้าปิลยักษ์ตรัสว่า)
[345] ท่านทั้ง 2 ตาบอดไม่สามารถจะเห็นอะไร ๆ ในป่าได้
ใครเล่าหนอนำผลไม้มาให้ท่านทั้ง 2
การเก็บสะสมผลาผลที่ทำไว้อย่างเรียบร้อยนี้
ย่อมปรากฏแก่เราเหมือนการเก็บสะสมของคนตาไม่บอด
(ทุกูลบัณฑิตได้ฟังพระดำรัสนั้น เมื่อจะแสดงธรรม จึงกราบทูลว่า)
[346] สามหนุ่มน้อยร่างสันทัด ผู้เห็นแก่กัลยาณธรรม
มีผมยาวดำสนิท มีปลายงอนช้อนขึ้นข้างบน
[347] เธอนั่นแหละนำผลไม้มา
บัดนี้ ถือหม้อน้ำจากที่นี้ไปตักน้ำยังแม่น้ำ
เข้าใจว่าใกล้จะกลับแล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :236 }