เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 1.เตมิยชาดก (538)
(ลำดับนั้น นายสุนันทสารถีกราบทูลว่า)
[56] ข้าแต่พระแม่เจ้า
ขอได้โปรดพระราชทานอภัยโทษแก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิด
ข้าพระพุทธเจ้าขอกราบทูล
ตามที่ได้ยินและได้เห็นมาในสำนักของพระราชโอรส
(พระนางจันทาเทวีตรัสกับนายสุนันทสารถีนั้นว่า)
[57] นายสารถีผู้สหาย เราให้อภัยโทษแก่ท่าน
อย่าได้กลัวเลย จงพูดไปเถิด
ตามที่ท่านได้ยินหรือได้เห็นมาในสำนักของพระราชโอรส
(นายสุนันทสารถีกราบทูลว่า)
[58] พระราชโอรสนั้นมิได้เป็นคนใบ้ มิได้เป็นคนง่อยเปลี้ย
ยังมีพระดำรัสสละสลวยไพเราะ ได้ทราบว่า
พระองค์ทรงกลัวต่อการครองราชสมบัติ
จึงได้ทำการลวงอย่างมากมาย
[59] พระองค์ทรงระลึกถึงชาติก่อน
ที่พระองค์เคยได้เสวยราชสมบัติ
ครั้นได้เสวยราชสมบัติในกาลนั้นแล้ว
ต้องไปตกนรกอย่างแสนสาหัส
[60] พระองค์ได้เสวยราชสมบัติในกาลนั้น 20 ปี
แล้วต้องไปหมกไหม้อยู่ในนรกถึง 80,000 ปี
[61] พระองค์ทรงกลัวต่อการเสวยราชสมบัติ
จึงทรงตั้งจิตอธิษฐานว่า
ขอชนทั้งหลายอย่าได้อภิเษกเราในราชสมบัติเลย
เพราะฉะนั้น พระองค์จึงไม่ตรัส
ในสำนักของพระบิดาและพระมารดาในกาลนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :192 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [22.มหานิบาต] 1.เตมิยชาดก (538)
[62] พระราชโอรสทรงถึงพร้อมด้วยองคาพยพ
มีพระรูปสมบัติงดงามสมส่วน
มีพระวาจาสละสลวย มีพระปัญญา
ทรงดำรงอยู่ในทางสวรรค์
[63] ถ้าพระแม่เจ้าทรงพระประสงค์จะทอดพระเนตร
พระราชโอรสของพระองค์
ข้าพระพุทธเจ้าขอทูลเชิญเสด็จพระแม่เจ้าไปให้ถึงสถานที่
ซึ่งเป็นที่ประทับของพระเตมีย์
(ฝ่ายพระเจ้ากาสีทรงสดับคำของนายสุนันทสารถี จึงดำรัสสั่งให้เรียกมหา-
เสนคุตมา รีบให้ตระเตรียมเสด็จ ตรัสว่า)
[64] เจ้าหน้าที่ทั้งหลายจงเทียมรถ เทียมม้า
ผูกเครื่องประคับช้าง จงประโคมสังข์และบัณเฑาะว์
ตีกลองหน้าเดียวเถิด
[65] จงตีกลองสองหน้าและรำมะนาอันไพเราะ
ขอชาวนิคมจงตามเรามา
เราจะไปให้โอวาทแก่พระโอรส
[66] ขอพระสนมกำนัลใน พระกุมาร แพศย์
และพราหมณ์ทั้งหลายจงรีบเทียมยาน
เราจะไปให้โอวาทแก่พระโอรส
[67] ขอพวกกองพลช้าง กองพลม้า กองพลรถ
และกองพลราบจงรีบเทียมยาน
เราจะไปให้โอวาทแก่พระโอรส
[68] ชาวชนบทและชาวนิคมมาประชุมพร้อมกันแล้ว
จงรีบเทียมยานเถิด
เราจะไปให้โอวาทแก่พระโอรส

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :193 }