เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [21.อสีตินิบาต] 3.สุธาโภชนชาดก (535)
(โกสิยดาบสกล่าวว่า)
[238] นรชนทั้งหลายผู้ประกอบด้วยศิลปวิทยา มารยาท
และความรู้ เป็นผู้ชำนาญการงานของตน
ถูกเธอทอดทิ้งให้เหินห่าง ย่อมไม่ได้อะไรแม้แต่น้อย
ความขาดแคลนที่เธอกระทำแล้วนั้นไม่ดีเลย
[239] แม่นางสิรีเทวี อาตมาเห็นคนผู้เกียจคร้าน กินจุ
ทั้งเป็นคนมีตระกูลต่ำ มีรูปร่างแปลกประหลาด
คนนั้นผู้อันเธอเฝ้าคุ้มครองรักษา
กลับกลายเป็นคนมีโภคะ มีความสุข
แม้คนผู้สมบูรณ์ด้วยชาติตระกูล
ก็ใช้สอยได้เหมือนอย่างทาส
[240] เพราะฉะนั้น อาตมาจึงรู้จักเธอว่า ไม่มีสัจจะ
ไม่แยกคบคน เป็นคนงมงาย ทำผู้รู้ให้ตกต่ำ
เทพธิดาเช่นเธอจึงไม่สมควรแก่อาสนะและน้ำ
อาหารทิพย์ที่ไหนจักมี จงไปเสียเถิด
อาตมาไม่ชอบใจเธอ
(โกสิยดาบสสนทนากับนางอาสาเทพธิดาว่า)
[241] ใครกันนั่น มีฟันขาวสะอาด
สวมใส่ตุ้มหู มีเรือนร่างงามวิจิตร
ทรงเครื่องประดับทองคำเนื้อเกลี้ยง นุ่งห่มภูษาสีรดน้ำ
ประดับช่อดอกไม้สีแดงประดุจเปลวไฟที่ไหม้หญ้าคา
ดูช่างงดงาม
[242] เธอเหมือนนางเนื้อทรายผู้ตื่นกลัว
ที่ถูกนายพรานยิงพลาดแล้วมองดูอย่างงุนงง
แม่เทพธิดาผู้มีดวงตาซื่อ ในที่นี้ใครเป็นเพื่อนของเธอ
เธอเที่ยวไปผู้เดียวในป่าใหญ่ ไม่กลัวหรือ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 28 หน้า :124 }