เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [1. เอกกนิบาต] 3. กุรุงควรรค 1. กุรุงคมิคชาดก (21)
[20] พญาวานรไม่เห็นรอยเท้าที่ขึ้นมา
เห็นแต่รอยเท้าที่ลงไป จึงกล่าวว่า
พวกเราจักดื่มน้ำด้วยหลอดไม้อ้อ
ท่านจักฆ่าเราไม่ได้
นฬปานชาดกที่ 10 จบ
สีลวรรคที่ 2 จบ

รวมชาดกที่มีในวรรคนี้ คือ
1.ลักขณชาดก 2. นิโครธมิคชาดก
3.กัณฑิชาดก 4. วาตมิคชาดก/l
5.ขราทิยชาดก 6. ติปัลลัตถมิคชาดก/r
7.มาลุตชาดก 8. มตกภัตตชาดก
9.อายาจิตภัตตชาดก 10 นฬปานชาดก

3. กุรุงควรรค
หมวดว่าด้วยกวาง
1. กุรุงคมิคชาดก (21)
ว่าด้วยกวาง
(กวางโพธิสัตว์แสร้งกล่าวกับต้นไม้กระทบนายพรานว่า)
[21] นี่ไม้มะรื่น การที่ท่านปล่อยผลมะรื่นให้หล่นกลิ้งมานั้น
กวางรู้แล้ว เราจะไปยังไม้มะรื่นต้นอื่น
เราไม่ชอบใจผลของท่าน
กุรุงคมิคชาดกที่ 1 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :9 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [1. เอกกนิบาต] 3. กุรุงควรรค 4. อาชัญญชาดก (24)
2. กุกกุรชาดก (22)
ว่าด้วยสุนัขที่ถูกฆ่า
(สุนัขโพธิสัตว์แสดงธรรมถวายพระราชาผู้ทำสิ่งที่ไม่เป็นธรรมว่า)
[22] พวกลูกสุนัขที่เขาเลี้ยงจนเจริญเติบโตแล้วในราชตระกูล
เป็นสัตว์มีตระกูล สมบูรณ์ด้วยสีสันและกำลัง กลับไม่ถูกฆ่า
พวกเราซิกลับถูกฆ่า นี้ชื่อว่าการฆ่าที่แปลก
ชื่อว่าเป็นการฆ่าผู้ที่มีกำลังอ่อนแอ
กุกกุรชาดกที่ 2 จบ

3. โภชาชานียชาดก (23)
ว่าด้วยม้าสินธพชาติอาชาไนย
(ม้าสินธพชาติอาชาไนยโพธิสัตว์ กล่าวกับหมู่ญาติว่า)
[23] ม้าสินธพชาติอาชาไนยที่ถูกยิงด้วยลูกศร
แม้นอนตะแคงอยู่ ก็ยังประเสริฐกว่าม้ากระจอก
พ่อสารถี ท่านจงตระเตรียมเราออกรบอีกเถิด
โภชาชานียชาดกที่ 3 จบ

4. อาชัญญชาดก (24)
ว่าด้วยม้าอาชาไนยกับม้ากระจอก
(ม้าอาชาไนยโพธิสัตว์ถูกฟันหมอบอยู่ กล่าวกับพลรถว่า)
[24] ไม่ว่าในกาลใด สถานที่ใด ขณะใด
สนามรบใด หรือเวลาใด
ม้าอาชาไนยก็เร่งความเร็ว
ส่วนม้ากระจอกย่อมล้าหลัง
อาชัญญชาดกที่ 4 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :10 }