เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [2. ทุกนิบาต] 2. สันถววรรค 6. อุปสาฬหกชาดก (166)
5. นกุลชาดก (165)
ว่าด้วยพังพอน
(ฤๅษีโพธิสัตว์เห็นพังพอนกลับมา จึงกล่าวว่า)
[29] นี่เจ้าพังพอนผู้เกิดในครรภ์
ท่านเชื่อมสัมพันธ์กับงูที่เป็นศัตรู
ยังจะนอนแยกเขี้ยวอยู่ ภัยนั้นมีมาแต่ไหนหนอ
(พังพอนตอบว่า)
[30] ในศัตรูบุคคลพึงระแวงไว้ก่อน แม้ในมิตรก็ไม่พึงวางใจ
ภัยที่เกิดขึ้นจากคนไม่มีภัยย่อมกัดกร่อนจนถึงโคนราก
นกุลชาดกที่ 5 จบ

6. อุปสาฬหกชาดก (166)
ว่าด้วยพราหมณ์อุปสาฬหกะ
(พราหมณ์โพธิสัตว์ตอบปัญหาของมาณพ กำหนดด้วยปุพเพนิวาสญาณแล้ว
จึงกล่าวว่า)
[31] พราหมณ์ชื่ออุปสาฬหกะ จำนวน 14,000 คน
ได้ถูกพวกญาติเผาในสถานที่นี้
สถานที่ไม่เคยมีคนตายไม่มีในโลก
[32] สัจจะ ธรรมะ อหิงสา
สัญญมะ และทมะมีอยู่ในผู้ใด
พระอริยะเจ้าทั้งหลายย่อมคบหาบุคคลเช่นนั้น
(เพราะ)คุณธรรมชื่อว่าไม่ตายในโลก
อุปสาฬหกชาดกที่ 6 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :71 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [2. ทุกนิบาต] 2. สันถววรรค 8. สกุณัคฆิชาดก (168)
7. สมิทธิชาดก (167)
ว่าด้วยเทพธิดาหลงรักพระสมิทธิโพธิสัตว์
(เทพธิดาประเล้าประโลมพราหมณ์โพธิสัตว์ว่า)
[33] ภิกษุ ท่านยังมิได้บริโภคกามคุณเลย
กลับมาเที่ยวภิกขาจารเสียนี่
ก็ท่านบริโภคกามคุณเสียก่อนแล้ว
จึงเที่ยวภิกขาจารจะไม่ดีหรือ
ภิกษุ ท่านจงบริโภคกามคุณเสียก่อนเถิด
แล้วจึงเที่ยวภิกขาจาร
ขอเวลาบริโภคกามคุณอย่าได้ล่วงเลยท่านไปเสียเลย
(พราหมณ์โพธิสัตว์กล่าวคาถาที่ 2 ว่า)
[34] เราไม่รู้เวลาตายของตนเลย
เวลาตายปิดบังอยู่ยังไม่ปรากฏ
เพราะฉะนั้น เราจึงไม่บริโภคกามมาเที่ยวภิกขาจารอยู่
ขอเวลาบำเพ็ญสมณธรรมอย่าได้ล่วงเลยเราไปเลย
สมิทธิชาดกที่ 7 จบ

8. สกุณัคฆิชาดก (168)
ว่าด้วยเหยี่ยวนกเขาหลงกลนกมูลไถ
(พระศาสดาทรงแสดงเรื่องเหยี่ยวนกเขากับนกมูลไถในอดีตแล้วตรัสเรื่องโคจร
ของภิกษุว่า)
[35] เหยี่ยวนกเขาโฉบลงเต็มแรงด้วยหมายใจว่า
จะจับเอานกมูลไถที่อยู่ในที่หากิน
โฉบลงอย่างฉับพลัน
เพราะเหตุนั้น จึงถึงความตาย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :72 }